ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 23-01-2011, 14:26
ป้านุช's Avatar
ป้านุช ป้านุช is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
สถานที่: Bangkok Thailand
ข้อความ: 866
ได้ให้อนุโมทนา: 21,453
ได้รับอนุโมทนา 109,674 ครั้ง ใน 2,785 โพสต์
ป้านุช is on a distinguished road
Wink

ฉะนั้น ให้พิจารณาดูว่า ในด้านต่าง ๆ ที่เราทำมีเหตุผลทั้งนั้น ตั้งแต่ปฏิบัติที่เรียกว่าขั้นต่ำ ขั้นที่ได้ผลบัดนี้ในปัจจุบัน จนกระทั่งได้ผลถึงที่สุด แต่ละคนก็มีความสามารถต่าง ๆ กัน แต่วันหนึ่งก็จะหลุดพ้นจากความทุกข์ได้ด้วยการพิจารณา คนที่พิจารณามาก ๆ ก็ขจัดความทุกข์ได้เร็วกว่า

คนที่พิจารณาน้อยก็อาจจะวนเวียนอยู่แถวนี้ได้นานกว่า นี่ก็แล้วแต่คน แต่ว่าเริ่มต้นด้วยการทำกุศลในรูปใดที่รู้ว่าเป็นกุศลก็เป็นการดี การที่บอกว่าให้รู้ว่าเป็นกุศลนี้ก็เป็นการกระทำที่ที่จะเป็นกุศลให้ตัวเรา เราทำกุศลเราสร้างความดีทำไม

ลองคิดพิจารณาว่า ทำไมเรามาปักดอกไม้นี้ เป็นกุศลจริงหรือ ฉะนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างที่ว่ากุศล ทำบุญมีเหตุผลทั้งนั้น ใครมาพูดอะไร มาแย้งอะไร เรามาคิดว่าทำไมเขามาแย้งว่า ความจริงนั้นถูกต้องหรือไม่ ถูกต้องที่เขาเข้ามาแย้ง ความคิดนี้ก็เป็นกุศล เราทำทุกวัน ทุกวันเราทำกุศลหลายครั้งนั้นหยุดคิดดี ๆ มีเหตุผล ถ้าเราคิดด้วยเหตุผลก็ไม่ควรจะผิด

เหตุผลนี่ก็มีหลายอย่าง มีเหตุผลที่ดีและเหตุผลที่ไม่ดี ถ้าทำอะไรตามเหตุผลที่ดีก็เป็นกุศล ถ้าทำอะไรตามเหตุผลที่ไม่ดีก็เป็นอกุศล เพราะว่ารากฐานของเหตุผลนั้นไม่ดี ถ้าเราบอกว่า การฆ่าคนหรือการฆ่าสัตว์เป็นของไม่ดี เราจึงไม่ทำ เราจึงไม่ฆ่าสัตว์

แต่ถ้าเราตั้งรากฐานไว้ว่าการฆ่าสัตว์นี้เป็นของดี เราฆ่าสัตว์จึงเป็นของดี นี่เป็นเหตุผลของเราแต่เป็นเหตุผลที่ทำให้ไม่ดี รากฐานนี้ไม่ดี อันนี้เป็นโทษของเหตุผลเหมือนกัน ต้องดูถึงรากฐานที่เราตั้งเหตุผลนี้ขึ้นมา แต่บางทีเหตุผลไม่ใช่ง่าย ๆ อย่างนี้

บางทีบอกว่าฆ่าสัตว์ไม่ดี แล้วเราก็เดินไปเดินมา ก็ต้องฆ่าสัตว์อยู่ตลอดเวลา เพราะว่าอาจจะมีมด มียุง มีอะไร ๆ เราไม่ระวัง เราจึงเป็นคนบาปอยู่ตลอดเวลา เรารับประทานอาหารมีเนื้อสัตว์ เขาก็ต้องฆ่าสัตว์มากิน เป็นต้นเหตุให้ฆ่าสัตว์ก็ไม่ดี

อันนี้หมายความว่าด้วยหลักของเหตุผล เรากลายเป็นคนเลวทั้งนั้น ถ้าดูในแง่เหตุผลอย่างหนึ่งก็อาจจะเป็นจริง เรายังมีไม่ดีในตัวต้องขัดเกลา แต่ว่าถ้าเราไปเครียดเราไปหนักใจมากเหลือเกิน ในข้อนี้จะทำบาปได้มากขึ้นอีก ก็อย่างพระพุทธเจ้า มีใครมาคัดค้านท่าน ทำไมไม่สอนพระภิกษุเลิกบริโภคเนื้อสัตว์ อนุญาตให้บริโภคเนื้อสัตว์มิใช่บาปหรือ

พระพุทธเจ้าท่านไม่ห้ามและไม่แม้แต่จะคัดค้านแล้ว ท่านก็ยังไม่ห้ามบริโภคเนื้อสัตว์เพราะเหตุอื่น เพราะเหตุว่าชาวบ้านเขาต้องบริโภคเนื้อสัตว์ ถ้าเราไปที่ไหนที่เขาบริโภคเนื้อสัตว์ แล้วพระภิกษุไปบอกว่าฉันไม่ได้ จะต้องทำให้เป็นพิเศษ ยิ่งบาปใหญ่ยิ่งเดือดร้อนใหญ่ ต้องมีเหตุผลแต่ไม่ได้สนับสนุนการฆ่าสัตว์ ดังนี้เป็นต้น

ถ้าเราคิดพิจารณาอย่างละเอียดแล้วถึงเหตุผล จะทำให้เรามีความก้าวหน้าในจิตใจ คือหมายความว่าจะมีความฉลาดหรือมีปัญญา"
__________________
เสียงธรรมจากพระองค์ที่ ๑๐
ธรรมพระพุทธเจ้า คือธรรมชาติ ธรรมชาติที่ทุกคนก็มีอยู่ในตัวเอง
เพราะฉะนั้นเธอก็มีธรรมะ ฉันก็มีธรรมะ เธอกับฉันมีธรรมเสมอกันคือความตาย

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-01-2011 เมื่อ 15:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 81 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ป้านุช ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา