ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 26-11-2009, 21:01
หนุมานเชิญธง's Avatar
หนุมานเชิญธง หนุมานเชิญธง is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Nov 2009
สถานที่: ลี้ ลำพูน
ข้อความ: 25
ได้ให้อนุโมทนา: 1,216
ได้รับอนุโมทนา 2,968 ครั้ง ใน 74 โพสต์
หนุมานเชิญธง is on a distinguished road
Default


ประวัติพระธาตุเจ้าดอยต๊อก โดยสังเขป
ดังมีประวัติเล่าสืบ ๆ กันมาว่า ในสมัยของพระนางจามเทวี พระนางได้มาสร้างวัดป่าหยวก (ปัจจุบันนี้ได้จมไปใต้น้ำเขื่อนแล้ว) ต่อจากนั้นมาสร้างวัดแคป (น้ำท่วมไปแล้ว) ต่อจากนั้นก็ไปสร้างวัดหัวโต่งหรือวัดหัวทุ่ง ซึ่งปัจจุบันนี้เป็นวัดร้างอยู่กลางสวน ต่อจากนั้นก็ไปสร้างที่เมืองฮอดคือวัดหลวงฮอดในปัจจุบัน จากนั้นไปสร้างที่วัดดอยน้อย อำเภอจอมทอง หลังจากนั้นไปสร้างที่เมืองลำพูนคือวัดจามเทวีในปัจจุบัน ในเวลาขณะนั้นได้เกิดสงครามกับม่าน (พม่า) ที่ยกทัพมาตีเมืองเชียงใหม่ ชาวบ้านเกิดความระส่ำระสายกลัวภัยสงคราม จึงนำของมีค่าจากวัดป่าหยวก วัดแคป วัดหัวโต่ง มาซ่อนไว้ในถ้ำดอยพระเคี่ยน เนื่องจากกลัวพม่านำของมีค่าไป ปากถ้ำมีทางทิศตะวันออกที่เราสร้างฐานพระครอบไว้ในเจดีย์นี้ เป็นปล่องถ้ำลึกลงไป ๑๐ ศอก เป็นที่เก็บของสำคัญต่าง ๆ เดิมทีพุทธสถานแห่งนี้เป็นชื่อ ดอยพระเคี่ยน แต่เมื่อเกิดสงครามกับพม่าชาวบ้านกลัวพม่า นำของมีค่าไปจึงเปลี่ยนชื่อเป็นดอยต๊อกไป แต่ดอยต๊อกจริง ๆ ก็มีอยู่อีกแห่งหนึ่ง
ดอยต๊อกนี้คงสร้างหรือบูรณะในระยะไล่เลี่ยกับสมัยที่พระนางจามเทวีได้ไปสร้างและบูรณะที่วัดพระบรมธาตุแก่งสร้อย หรือเมืองท่าสร้อยเมื่อปี พ.ศ. ๑๒๓๐ และหลังจากนั้นมาเมืองท่าสร้อยก็เจริญรุ่งเรือง มาถึงที่สุดในสมัยกษัตริย์องค์สุดท้ายชื่อ ปทุมราชบรมกษัตริย์ ได้ทรงสร้างและบูรณะวัดอารามขึ้นมาใหม่ถึง ๙๙ วัดจนกระทั่งปี พ.ศ. ๒๓๑๐ ทางอโยธยา เกิดศึกสงครามกับพม่า จึงมาเกณฑ์เอาชาวเมืองท่าสร้อยไปช่วยทำศึก เมืองท่าสร้อยจึงร้างตั้งแต่นั้นมา จนถึงยุคสมัยของครูบาเจ้าชัยลังกาและครูบาศรีวิชัย จึงได้สร้างองค์พระเจดีย์ขึ้นใหม่ เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๖๗ แล้วเสร็จเมื่อปี ๒๔๖๘ เมื่อเสร็จแล้วจึงจัดให้มีงานฉลองสมโภชขึ้นเป็นเวลา ๗ วัน ๗ คืน ล่วงมาถึงปี ๒๕๓๗ ครูบาชัยยะวงศา วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม อันเป็นลูกศิษย์แห่งครูบาเจ้าศรีวิชัย ก็ได้นำลูกศิษย์มาบูรณะพระธาตุเจดีย์แก่งสร้อย (เกตุสร้อย) และสร้างวิหารหลวงด้านหลังเจดีย์ขึ้น ทั้งยังจัดงานสรงน้ำพระธาตุประจำปีขึ้นอีกด้วยทุก ๆ ปี เมื่อครูบาชัยยะวงศาได้ละสังขารหรือมรณภาพไป ครูบานิกร ชัยยะเสนโน ก็ได้บูรณะพัฒนามาจนถึงทุกวันนี้
__________________
เมื่อนภาไร้เมฆบดบัง ทั่วทุกด้านสว่างไสว
ลมพัดโชยเรื่อย ๆ ไกล ขุนเขาไร้เสียงจำเนียงนรรจ์
วันนี้น่ายินดี หยุดชีวีที่ผูกพัน ไร้ทุกข์โศกในทุกวัน ทิ้งขันธ์ ๕ ไม่พบเจอ


ครูบาเจ้าชัยยะลังก๋าอรัญญาวาสีมหาเถร

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย หนุมานเชิญธง : 27-11-2009 เมื่อ 15:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ หนุมานเชิญธง ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา