ดูแบบคำตอบเดียว
  #37  
เก่า 13-12-2010, 20:28
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,474
ได้ให้อนุโมทนา: 151,107
ได้รับอนุโมทนา 4,403,547 ครั้ง ใน 34,063 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ในเรื่องการปล่อยวางนั้น จะมีความลึกเป็นระดับขั้น ๆ ใช่หรือเปล่า ? อย่างบางเรื่อง ณ ตอนนี้เราปล่อยมันแล้ว แต่พอไปถึงอีกจุดหนึ่ง เราจะรู้ว่าที่ปล่อยในครั้งนั้น ยังไม่ใช่จริง ยังมีความปล่อยที่มากกว่านั้นอีก จะเป็นอย่างนี้ไปอีกเรื่อย ๆ ใช่ไหมคะ ?
ตอบ : ถูกต้องแล้วครับ..!

ถาม : มีโอกาสเป็นไปได้ไหม ที่เราปล่อยวางเรื่องนี้จนกระทั่งถึงจุดตันที่สุดของเรื่องนั้นแล้ว แต่ในเรื่องอื่น ๆ เรายังปล่อยได้ไม่ถึงที่สุด หรือว่าแท้จริงอารมณ์ปล่อยวางจะต้องเท่ากันหมดในทุกเรื่อง ?
ตอบ : จริง ๆ แล้วต้องเท่ากันทุกเรื่อง แต่ว่าในแต่ละเรื่อง บางทีความยินดียินร้ายและอารมณ์ปรุงแต่งบางส่วนของเรายังมีอยู่ จึงทำให้เราปล่อยได้ไม่เท่ากัน

ถาม : มาสังเกตว่า แค่บางครั้งตัวสมาธิเราพร้อม ตัวปัญญาและสติของเราก็มาพร้อม เหมือนกับมารวมตัวกัน ตรงนี้แค่เราบังคับให้อยู่ในอารมณ์สมาธิอย่างเดียวไปตลอด เราก็แค่ระวังป้องกัน หรือบางช่วงที่กิเลสยังไม่เข้า เราก็ต้องซ้อมของเราไปเรื่อย ๆ ?
ตอบ : ซ้อมไปเรื่อย ๆ ดีกว่า สติ สมาธิ ปัญญา นั้น จริง ๆ แล้วมาพร้อมกัน แต่สมาธิจะเป็นตัวข้อกลางที่เชื่อมระหว่างสติกับปัญญาอยู่ ถ้าสมาธิทรงตัว สติตั้งมั่น ปัญญาก็เกิดได้ง่าย ถึงเวลาเราก็เอาสมาธิไว้ก่อน และซ้อมเข้าซ้อมออกให้คล่อง หลังจากนั้นก็ซ้อมในการสู้กับกิเลส

แรก ๆ ก็อาจจะเป็นการจินตนาการอะไรขึ้นมาก่อน หลังจากที่เรามีความคล่องตัวในการแก้ไขปัญหาตามข้อกิเลสนั้น ๆ ถึงเวลาจริงก็จะแก้กิเลสได้ง่ายขึ้น จะเห็นช่องทางมากขึ้น

ถาม : บางทีหนูไปลิ้มรสของความรู้สึกที่ไม่มีอะไร พอรู้ว่าไม่มีอะไร เราก็ไม่คิดจะเอาอะไร กลายเป็นว่าสิ่งที่เราคิด พูด ทำ เป็นไปเพื่อประโยชน์ของผู้อื่น ความเป็นตัวเองจะหยุดไปเลย
ตอบ : จะว่าไปแล้วก็คือ รู้ว่าดีก็ทำ รู้ว่าชั่วก็ละ แต่ในส่วนของเราที่ว่ามา จริง ๆ แล้วจะอธิบายลักษณะอย่างนั้นได้ ในเมื่อเราเห็นว่าทุกสิ่งไม่มีสาระ ไม่มีแก่นสาร ทั้งหมดที่เราทำไปก็สักแต่ว่าทำ แต่ทำในลักษณะที่รู้ว่าสิ่งนี้ดี โลกเขานิยมว่าดี เราก็ทำสิ่งนั้น แล้วสิ่งไหนที่ชั่ว คนส่วนมากเขาเห็นว่าไม่สมควร เราก็ละเว้นในสิ่งนั้น

โดยเฉพาะต้องดีของพระพุทธเจ้า และสิ่งที่ท่านว่าไม่ดี ถ้าเราทำดีของพระพุทธเจ้าและละในสิ่งที่ท่านว่าไม่ดีได้ โดยที่สักแต่ว่าทำ ก็กลายเป็นกำลังใจของเราจะก้าวเข้าสู่จุดสุดท้ายได้ง่าย

ถาม : อย่างสักแต่ว่าทำ เช่น ในเรื่องการปฏิบัติ เรารู้ว่าสิ่งที่เราทำตรงนี้ผลที่ได้คืออะไร แต่ไม่ใช่รู้ขณะช่วงที่เราทำเท่านั้น ก่อนที่เราจะทำหรือหลังที่เราทำ เราก็ไม่ได้คิดถึงผลตรงนั้น คือหยุดแค่ตรงนั้นอย่างเดียว
ตอบ : จ้ะ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-12-2010 เมื่อ 02:11
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 139 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา