เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันเสาร์ที่ ๔ มีนาคม ๒๕๖๐
ให้ทุกคนตั้งกายให้ตรง กำหนดสติอยู่ที่ลมหายใจเข้าออกของเรา หายใจเข้า...ให้ความรู้สึกทั้งหมดไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก...ให้ความรู้สึกทั้งหมดไหลตามลมหายใจออกมา จะใช้คำภาวนาอะไรก็ได้ตามที่เรามีความถนัดมาแต่เดิม
วันนี้เป็นวันเสาร์ที่ ๔ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๐ อยากจะพูดถึงสำหรับผู้ที่ปฏิบัติใหม่ เนื่องจากว่ามีหลายท่านที่มาสอบถามเกี่ยวกับปัญหาในการปฏิบัติ แล้วสรุปได้ว่าแม้แต่ลมหายใจเข้าออกก็จับไม่ได้
ลมหายใจเข้าออกนั้นเป็นพื้นฐานใหญ่ของกองกรรมฐานทั้งปวง ไม่ว่าจะเป็นกรรมฐานกองใดก็ตาม ถ้าไม่มีลมหายใจเข้าออกไปควบคู่ด้วย กรรมฐานกองนั้นจะตั้งอยู่ไม่ได้นาน การที่เราจะตัดกิเลสต้องมีกำลังสมาธิที่สูงพอ จึงจะสามารถตัดกิเลสในระดับต่าง ๆ ได้ ถ้าไม่มีลมหายใจเข้าออกไปควบคู่ด้วย สมาธิก็ไม่ทรงตัว ย่อมไม่มีกำลังที่จะไปต่อสู้กับกิเลสได้
ดังนั้น...ในการปฏิบัติของเราทุกครั้งจะทิ้งลมหายใจเข้าออกไม่ได้ มีหลายท่านบอกว่าการปฏิบัติแบบวิปัสสนายานิกะ คือการคิดพิจารณาไปเรื่อย ๆ ก็สามารถทำให้บรรลุมรรคผลได้ นั่นเป็นสิ่งที่ถูกต้องตามตำรา แต่ในการปฏิบัติจริง ๆ นั้นจะเป็นเรื่องที่ยากมาก เพราะว่าสภาพจิตของเราขาดสมาธิที่จะหนุนเสริม การพินิจพิจารณาย่อมไม่ปรากฏความชัดเจน
ในเมื่อไม่ปรากฏความชัดเจน ก็จะสร้างความฟุ้งซ่านให้เกิดได้ง่าย เมื่อจิตใจฟุ้งซ่านขึ้นมา รัก โลภ โกรธ หลง ก็ย่อมแทรกเข้ามาทันที ดังนั้น...วิปัสสนาล้วน ๆ จึงเป็นเรื่องที่ยากเหลือเกินที่จะบรรลุหรือประสบความสำเร็จ
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-03-2017 เมื่อ 15:38
|