ชื่อกระทู้: อย่าไปแก้ไขภายนอก
ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 30-12-2011, 10:47
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 187,554 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default

๒. “เรื่องหน้าที่เป็นธรรมภายนอก การปฏิบัติเป็นธรรมภายใน มีความสำคัญดังนี้...

ก) ใครจักว่าอย่างไรก็จงอย่าสนใจ ให้ตั้งใจทำทุกอย่างเพื่อพระพุทธศาสนา หรือพระนิพพาน ชีวิตไม่เที่ยง ความตายเป็นของเที่ยง ชีวิตจักหมดความหมายถ้าไม่เจริญพระกรรมฐานให้จิตปล่อยวาง ไม่มีใครช่วยใครได้ในเรื่องละกิเลสออกจากจิต นอกจากตัวเราเองเท่านั้น ที่จักเป็นผู้ปฏิบัติให้กับจิตของตัวเอง

ข) หน้าที่เป็นธรรมภายนอก การปฏิบัติเป็นธรรมภายใน อย่าคิดว่าเวลาของชีวิตจักมีมาก ชีวิตที่มีอยู่เหลือน้อยเต็มที ขอให้ตั้งใจละตั้งใจเว้นจากความโลภ โกรธ หลง เพื่อถึงซึ่งการดับไม่มีเชื้อ และไม่มีความหวังอื่นใด นอกเหนือจากพระนิพพานจุดเดียวเท่านั้น

ค) อย่ากังวลใจในเรื่องใด ๆ ทั้งปวง ให้พิจารณาถึงทุกข์ของการเกาะติดข้องอยู่ในความกังวลทั้งปวง และให้คิดถึงมรณานุสติให้มาก ไม่ช้าไม่นานร่างกายนี้จักมีวิญญาณไปปราศแล้ว ถ้ามัวแต่ข้องติดอยู่ในอารมณ์ จักไปพระนิพพานไม่ได้ จึงต้องระลึกนึกถึงความตาย อันจักเกิดแก่ตนเองให้มาก จักได้ไม่ประมาทในชีวิต อย่าคิดไปห่วงอนาคตที่ยังมาไม่ถึง อย่าคิดไปผูกพันกับอดีตที่ผ่านมา ธรรมภายนอกละเสียให้หมด ให้มาอยู่กับธรรมภายในอันเป็นอยู่ในปัจจุบัน ให้เห็นสังขารทั้งหลายที่ไม่เที่ยงอยู่นี้ ยึดถืออันใดไม่ได้ ให้จิตละ ปล่อยวางลงในปัจจุบันให้ได้ ส่วนสติ-สัมปชัญญะนั้นสำคัญมาก ให้กำหนดเอาไว้เสมอ แต่อย่าทำจนเครียด ให้พยุงจิตเอาไว้ รู้แต่เบา ๆ ไม่เครียด และพยายามพิจารณาขันธ์ ๕ เข้าไว้ อย่าเผลอ หรือเผลอให้น้อยที่สุดเท่าที่จักน้อยได้

ง) อย่าสนใจในจริยาของบุคคลอื่น หยุดจิตให้อยู่กับธรรมภายใน เช่น พิจารณาผม ขน เล็บ ฟัน หนัง อาการ ๓๒ ไปโดยเอนกปริยาย ธรรมภายนอกไม่สำคัญเท่าธรรมภายใน ผู้ใดที่ต้องการจักไปพระนิพพาน ให้ดูธรรมภายในทั้งหลายเหล่านี้ไว้ให้สม่ำเสมอไม่ขาดสาย เช่น ดูความสกปรก ไม่เที่ยง น่ารังเกียจ เกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับไปของมัน ให้ดูภาระและพันธะที่จิตเราถูกบังคับให้ต้องดูแลมัน (หมายถึงร่างกาย) ตั้งแต่วันเกิดจนกระทั่งวันตาย หากจิตเราปลดภาระที่ผูกพันเกาะติดมันไม่ได้ ก็ต้องมาเกิดกับมันอีกต่อไป ให้พิจารณาถาม-ตอบด้วยจิตของตนเอง จนให้จิตมันยอมรับนับถือตามความเป็นจริงอย่างนี้ ถามจนจิตมันเลิกดิ้นรนไปกับธรรมภายนอก จนจิตสงบยอมรับ นับถือสภาวธรรมทั้งหลายตามความเป็นจริง จิตไม่เดือดร้อน ไม่ปรุงแต่งธรรม จิตมีความสุข มีความสงบ นั่นแหละจึงจักคลายความเกาะติดในทุกข์ลงได้

จ) นำความจริงของร่างกายมาพิจารณา ให้จิตมันยอมรับสภาวะของร่างกายตามความเป็นจริง จิตจักได้ไม่ทุกข์ ไม่ยึดมั่นถือมั่นในร่างกายนี้ว่า เป็นสรณะเป็นที่พึ่ง จิตปุถุชนยังยึดมั่นถือมั่นในร่างกายว่า เป็นสรณะเป็นที่พึ่ง ทั้ง ๆ ที่มันแก่ มันเสื่อม มันจะพังอยู่ก็ยังยึดมั่นถือมั่น (ว่าเป็นตัวกูของกูอยู่) ไม่ยอมรับความแก่ ความเสื่อม ความพัง ให้พิจารณาและวัดสภาวะจิตของตนเข้าไว้ว่า จักมีอารมณ์ปลดร่างกายนี้ได้มากน้อยสักแค่ไหน หากพิจารณาให้ดีจักเห็นว่า ชีวิตกับความตายเป็นของใกล้กันนิดเดียว จิตปลดร่างกายได้มากแค่ไหน ก็เท่ากับไม่ประมาทในความตายได้มากขึ้นแค่นั้น"

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-12-2011 เมื่อ 03:13
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 67 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา