สรุปความว่า พระพุทธเจ้าทรงอุบัติมาในโลกนี้แล้ว
ทรงพัฒนาทั้งโลกและธรรมเป็นของคู่กันไป
แต่ทางโลกมีกิเลสตัณหาหุ้มห่ออยู่มากจนไม่สามารถที่จะเปลื้องออกได้
โลกจึงเจริญไม่ทันธรรม
ส่วนธรรมนั้นถึงจะมีกิเลสตัณหาปะปนอยู่บ้าง
แต่คนส่วนมากพากันพยายามแก้ไขให้น้อยลง ธรรมจึงเจริญรุดหน้า
ผู้มีธรรมอยู่ในใจแล้ว โลกย่อมค่อยจางหายไปจากจิตใจคนนั้น
ธรรมจึงเจริญยิ่ง ๆ ขึ้นในจิตใจคนนั้น
เรื่องนี้จะยกตัวอย่างให้ดู
__________________
การรักษากำลังใจสำคัญที่สุด...ได้ดีอย่าฟู แล้วขณะเดียวกันว่า ถ้าได้ร้ายก็อย่าฟุบ ให้เห็นว่ามันเป็นปกติของมัน เรื่องของมัน
ถ้ามันดีมาพออาศัยได้ก็ดีกับมันไป ถ้าหากว่ามันไม่ดีมา เราอยู่กับมันก็ให้รู้อยู่มีสติอยู่ ถึงเวลาก็ต่างคนต่างไปอยู่แล้ว...
กำลังใจของเราพลาดแม้แค่วินาทีเดียวนี่ อาจจะหมายถึงแพ้ทั้งกระดาน
อะไรมันก็ไม่เจ็บปวดเท่ากับต้องเกิดใหม่ มันเป็นทุกข์ เป็นโทษสุด ๆ จริง ๆ
กระโถนข้างธรรมาสน์ ฉบับที่ ๕๑
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-09-2011 เมื่อ 02:31
|