"ส่วนใหญ่พอพวกเราโดนหน่อยก็ไม่ไหวแล้ว เลิกดีกว่า...เกรงใจกิเลส แต่ถ้ารู้ว่าสิ่งที่เราทำจะเป็นทุกข์เป็นโทษกับคนอื่นก็แอบทำ ฝึกฝนมาจนป่านนี้แล้วปัญญาต้องมี อย่าไปทำต่อหน้าคนอื่น ไม่อย่างนั้นแล้วต่อให้เราไม่ได้คิด ไม่ได้พูดอะไรที่เป็นโทษกับเขา แต่โทษก็จะเกิด เพราะเขาคิด เขาพูด เขาทำกับเรา
ถึงเวลารักษาศีลก็ไม่จำเป็นต้องไปบอกว่าเรารักษาศีล เขาชวนกินเหล้าก็ “กินไม่ได้หรอก แพ้แอลกอฮอล์” ถ้ายังจะตื๊ออีกก็บอกว่า “หมอบอกว่าคนที่แพ้แอลกอฮอล์กินเข้าไปก็ถึงตาย” นั่นคนแพ้แอลกอฮอล์...ไม่ใช่เรา ส่วนเราแพ้เพราะว่าเราไม่กิน ถึงเวลาเหมือนอย่างกับน้ำกลิ้งบนใบบอน ก็กลิ้งไปได้เรื่อย
ถึงเวลารักษาศีล ๘ เขาชวนกินข้าวเย็น ก็ไม่จำเป็นต้องไปบอกว่ารักษาศีล ๘ ก็บอกว่า “อ้วนแล้ว ขอลดความอ้วนหน่อย ตอนนี้ยังไม่กินข้าวเย็น” อันนี้เขารับได้ แต่ถ้าบอกว่ารักษาศีล ๘ เขาจะมองตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าเลย กลายเป็นสัตว์ประหลาดไป"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-08-2019 เมื่อ 03:04
|