๕. “และ
การฝืนกฎของความเป็นจริงเหล่านี้ เกี่ยวเนื่องกับสักกายทิฏฐิทั้งหมดเพราะหลงยึดขันธ์ ๕ ว่ามีในเรา มีในเขา มีในวัตถุธาตุ ทรัพย์สินต่าง ๆ ยึดมั่นถือมั่นว่าเป็นของเรา เป็นของเขา นี่เพราะสักกายทิฏฐิตัวเดียวทำให้หลงหมดทุกอย่าง ไม่ยอมรับสภาพความเป็นจริง ความเจ็บเกิดขึ้นไม่ยอมรับความเจ็บ คิดอยู่แต่ว่าเราจักต้องแข็งแรงอยู่วันยังค่ำ คืนยันรุ่ง ความแก่เกิดขึ้นก็หาว่าเรายังไม่แก่ หลายคนพยายามหลอกตัวเรา หายาให้มันกินเพื่อประทังความแก่บ้าง แม้แต่ความตายก็ไม่อยากให้มันมาถึง ใครตายก็ช่าง แต่เราไม่เคยคิดว่าตัวเราจักตาย”
๖. “
การกระทบกระทั่งกับอารมณ์ปกติธรรมของชาวโลก ย่อมหนีการสรรเสริญนินทาไปไม่พ้น แต่พอใครมาด่าขันธ์ ๕ เราก็ไม่พอใจ ทั้ง ๆ ที่บางครั้งเขาด่าตรงตามความเป็นจริง แต่จิตของเราไม่ยอมรับความเป็นจริงก็พาลไปโกรธเขา การสรรเสริญก็เช่นกัน บางครั้งเราเลวแต่เขาแกล้งสรรเสริญว่าดี เราแม้จักรู้ว่าไม่ดีจริงตามนั้น แต่จิตมันก็ฟู พอใจในคำสรรเสริญทุกที การพลัดพรากจากของรักของชอบใจ การมีทรัพย์สินหรือคนอยู่ในความปกครองของเรา เราก็คิดอยู่แต่ว่าทรัพย์สินหรือคนนั้นจักต้องอยู่กับเราตลอดกาลตลอดสมัย ทั้ง ๆ ที่รู้ว่า
กฎไตรลักษณ์ครอบครองโลก ไม่ว่าทรัพย์สินหรือคน หรือแม้แต่ร่างกายของเราเองก็หนีกฎไตรลักษณ์ไปไม่พ้น ในที่สุดไม่ทรัพย์สินหรือคนก็ถึงอนัตตา หรือไม่ขันธ์ ๕ ของเราก็ถึงแก่ความตาย เหตุนี้โลกจึงมีความพลัดพรากจากของรักของชอบใจเป็นธรรมดา และมีความปรารถนาไม่สมหวัง
ด้วยเหตุสภาวะของโลกไม่เที่ยง เป็นสันตติ หมุนไปหาความเสื่อมและความสลายตัวไปในที่สุด จักหาความสมหวัง สมความปรารถนาได้อย่างไรกัน”
๗. “
จิตไม่ยอมรับความเป็นจริงมากเท่าไหร่ สักกายทิฏฐิก็มากขึ้นเท่านั้น ดูอารมณ์จิตนี่แหละ เป็นเครื่องวัดสังโยชน์ ทบทวนอารมณ์จิตเอาไว้เสมอ ให้มันยอมรับกฎของความเป็นจริงให้ได้ เพราะจักฝืนอย่างไรก็จักหนีสภาพอย่างนี้ไปไม่พ้น ตราบใดที่ยังมีขันธ์ ๕ อยู่”
๘. “
ยอมรับความเป็นจริงมากเท่าไหร่ สักกายทิฏฐิลดลงไปเท่านั้น ฝืนมากเท่าไหร่ทุกข์ก็มากขึ้นเท่านั้น แต่ถ้าจิตมีอารมณ์ไม่ฝืน ทุกข์ก็จักลดลง จนในที่สุดไม่ฝืนเลย อะไรจักเกิดขึ้นยอมรับตามความเป็นจริงว่า อ้อ..! นี่มันเป็นธรรมดานะ ทุกข์ก็จักไม่เกิดขึ้นกับจิตเลย เวลานั้นสังขารุเบกขาญาณก็จักทรงตัว ความเป็นพระอรหันต์ก็เข้ามาถึงได้ไม่ยาก”
ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น เล่ม ๗
รวบรวมโดย พล.ต.ท. นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน
ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่
www.tangnipparn.com