ดูแบบคำตอบเดียว
  #1  
เก่า 25-05-2017, 19:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,630 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันอาทิตย์ที่ ๗ พฤษภาคม ๒๕๖๐

ให้ทุกคนนั่งในท่าที่สบายของตนเอง ตั้งกายให้ตรง กำหนดสติคือความรู้สึกของเราไว้ที่ลมหายใจเข้าออก หายใจเข้า...ให้ความรู้สึกของเราทั้งหมด ไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก...ให้ความรู้สึกของเราทั้งหมด ไหลตามลมหายใจออกมา จะใช้คำภาวนาหรือพิจารณาอย่างไรก็ได้ แล้วแต่เราถนัดมาแต่เดิม

วันนี้เป็นวันอาทิตย์ที่ ๗ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๐ ในเรื่องของการปฏิบัติธรรมนั้น สำคัญอยู่ที่ลมหายใจเข้าออก ถ้าเราทิ้งลมหายใจเข้าออก การปฏิบัติธรรมจะไม่มีผล ส่วนการปฏิบัติที่มีผลนั้นคือ การที่เราจับลมหายใจเข้าออกพร้อมกับคำภาวนา จนกระทั่งทุกอย่างเป็นเองโดยอัตโนมัติ

คำว่าเป็นเองโดยอัตโนมัติก็คือ สภาพจิตของเรากำหนดรู้ลมหายใจพร้อมคำภาวนาได้โดยไม่ต้องบังคับ ถ้ายังไม่ถึงขั้นนี้โอกาสที่จะเอาชนะกิเลสก็ยังไม่มี แต่ถ้าทำถึงขั้นนี้แล้ว ถ้าเราขาดสติ เผลอเมื่อไร กิเลสก็ตีกลับได้ทุกเมื่ออีกเช่นกัน

แต่ว่าเท่าที่เห็นในปัจจุบันนี้ก็คือ พวกเราทั้งหลายไม่มีความจริงจังในการปฏิบัติธรรม สักแต่ว่าปฏิบัติไปเพื่อให้ได้ชื่อว่าเป็นผู้ปฏิบัติธรรมเท่านั้น เหตุใดถึงได้กล่าวเช่นนี้ ก็เพราะว่าเราปล่อยให้สภาพจิตของเรามีเวลาว่างไปฟุ้งซ่านกับ รัก โลภ โกรธ หลง มากจนเกินไป อย่างเช่นว่า อาจจะภาวนาเช้าครึ่งชั่วโมง เย็นครึ่งชั่วโมง เหลือเวลากลางวัน ๑๑ ชั่วโมงกับเวลากลางคืน ๑๒ ชั่วโมง เราปล่อยให้สภาพจิตของเราไหลตามกระแส รัก โลภ โกรธ หลง ไป ถ้าลักษณะอย่างนี้เราจะเอาตัวไม่รอด เพราะว่าทำงานในลักษณะที่ขาดทุนอยู่ทุกวัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-05-2017 เมื่อ 19:40
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา