ถาม : ในอดีตมีการจัดงานศพของพระที่ใหญ่โตขนาดหลวงตาบัวหรือไม่ ?
ตอบ : ในอดีตน่าจะเป็นสมัยหลวงปู่มั่น ถัดมาก็หลวงปู่ฝั้น สมัยหลวงปู่ฝั้นในหลวงเสด็จเองเลย
ถาม : สมัยหลวงปู่ชอบก็งานใหญ่
ตอบ : งานใหญ่ก็จริง แต่ก็ไม่ดังขนาดนี้
ถาม : งานของหลวงตาบัวดังกว่างานหลวงพ่อวัดท่าซุง
ตอบ : ดังกว่าเยอะ
ถาม : งานหลวงพ่อไม่ดังเท่าไร
ตอบ : ไม่ดังเท่าไรหรอก แค่หนังสือพิมพ์ลงข่าวให้เป็นเดือน หนังสือพิมพ์ทุกฉบับไปตั้งกองหาข่าวในวัดเลย เขาลงพาดหัวให้สามวันและลงเนื้อหาข้างในอีก ๗ วัน
มติชนรายสัปดาห์ลงให้สองเล่ม เหตุที่ทำอย่างนั้นเพราะเป็นครั้งแรกที่มติชนขายหมดตลาด ไม่มีเหลือส่งกลับ ไม่มีการส่งคืนโรงพิมพ์ เขาแปลกใจ จึงส่งนักข่าวไปตั้งกองอยู่ที่วัด อาตมามีหน้าที่ดูแลพวกนี้จึงรู้ ต้องพาเขาไปสัมภาษณ์ท่านนั้นท่านนี้ ต้องพาเขาไปถ่ายรูปในกุฏิหลวงพ่อ แต่งานศพของหลวงพ่อท่านไม่ได้เผา จะเอาให้ดังเหมือนงานที่เผาจึงไม่ได้
ถาม : เดี๋ยวนี้เห็นมีร่างทรงหลวงพ่อฤๅษีลิงดำด้วย
ตอบ : มีมาตั้งแต่สมัยก่อนท่านจะมรณภาพแล้ว ท่านบอกว่า "เล็กเว้ย..ข้ายังไม่ทันจะตายเลย มีสำนักทรงฤๅษีลิงดำไป ๖๐ กว่าสำนักแล้ว"
นึกถึงสญชัยปริพาชก พออุปติสสะมาณพและโกลิตะมาณพได้เป็นพระโสดาบัน เห็นว่าพระพุทธเจ้ามีความดีอย่างไร ก็ไปชวนสญชัยปริพาชกซึ่งเป็นอาจารย์ของตัวเอง ให้ไปหาพระพุทธเจ้าด้วยกัน สญชัยปริพาชกไม่ยอมไป ท่านย้อนถามกลับมาว่า "โลกนี้คนโง่หรือคนฉลาดมากกว่า ?"
อุปติสสะมาณพและโกลิตะมาณพตอบว่า "คนโง่ย่อมมากกว่าเป็นปกติอยู่แล้ว" สญชัยปริพาชกจึงบอกว่า "ถ้าอย่างนั้นคนฉลาดอย่างพวกเธอจงไปหาพระสมณโคดม ส่วนคนโง่จะมาหาเราเอง" ฉะนั้น..เรื่องพวกนี้ถือเป็นเรื่องปกติ อย่างไรก็มีคนเชื่อและไปหาเขาอยู่แล้ว
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วสันต์วิษุวัต : 29-03-2011 เมื่อ 16:53
|