ดูแบบคำตอบเดียว
  #9  
เก่า 26-02-2009, 16:44
ชินเชาวน์'s Avatar
ชินเชาวน์ ชินเชาวน์ is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Oct 2008
ข้อความ: 259
ได้ให้อนุโมทนา: 13,956
ได้รับอนุโมทนา 50,289 ครั้ง ใน 1,280 โพสต์
ชินเชาวน์ is on a distinguished road
Default

เมตตาต่อสุนัขขี้เรื้อน

หลายปีมาแล้ว ใครไปใครมาที่กุฏิท่านอาจารย์คงพอจะจำเจ้าแดงสุนัขขี้เรื้อนได้ เจ้าแดงมีลักษณะสูงใหญ่ขนาดสุนัขพันธุ์ไทยทั่วไป อ้วนนิด ๆ ลักษณะดีแทบทุกอย่าง มีข้อเสียอย่างเดียวคือ มันเป็นขี้เรื้อน เจ้าแดงถือบัตรเบ่งขึ้นมานอนเฝ้าท่านอาจารย์ที่ใต้โต๊ะที่ท่านใช้เขียนหนังสือบ้าง อ่านหนังสือบ้าง เวลาแขกไปใครมามันจะเกาขี้เรื้อนแกรกกราก และส่งกลิ่นหึ่งไปทั่ว ถ้าคนอื่นไล่มันจะไม่ไป ต้องให้ท่านอาจารย์ไล่มันถึงจะไป บางทีก็ดื้อแพ่งต้องให้ท่านอาจารย์ขึ้นเสียงดุมันถึงจะทำอิดออดค่อย ๆ ลงกระไดไป พวกลูกศิษย์ต่างพากันย่นจมูก และกระเถิบหนีเวลาเจ้าแดงเฉียดกายมาใกล้ ๆ แต่ท่านอาจารย์จะเฉย ๆ ไม่แสดงอาการรังเกียจแต่อย่างใด ใคร ๆ คิดว่าอีกหน่อยมันคงต้องตายแน่ ๆ เพราะสารรูปดูแย่เต็มทน ระยะหลังมันจะซึม ๆ และชอบหลบไปนอนใต้ตู้หน้าครัว ใคร ๆ จึงลืมมันไปพักใหญ่ ต่อมาอีกไม่นานมีสุนัขขนสีน้ำตาลแดงสวย ตัวหนึ่งมาเดินป้วนเปี้ยนอยู่แถวกุฏิ ผู้คนจึงถามกันใหญ่ว่าสุนัขตัวใหม่มาจากไหน ปรากฏว่าสุนัขตัวใหม่ไม่มี มีแต่เจ้าแดงนี่แหละ แต่ท่านอาจารย์แปลงโฉมให้มันใหม่ โดยขอให้ศิษย์ท่านหนึ่งเอาน้ำมันเครื่องผสมกับกำมะถันทาแก้ขี้เรื้อน นี่เป็นตัวอย่างเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่แสดงให้เห็นถึงเมตตาจิตของท่านที่มีต่อสัตว์โลก

วันวิสาขบูชา

วันวิสาขบูชานอกจากเป็นวันสำคัญทางศาสนาแล้ว ยังเป็นวันที่ท่านอาจารย์จัดให้มีพิธีมอบรางวัลให้เด็กที่หมั่นเพียรเรียนหนังสือ จนสอบได้คะแนนเฉลี่ย ๘๐% ขึ้นไป ในวันนี้จะมีเด็กนักเรียนทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่ชั้นอนุบาลจนถึงมหาวิทยาลัยมาร่วมจับฉลากเพื่อรับรางวัลจากท่านอาจารย์ ก่อนเริ่มพิธีก็มีการสวดมนต์ไหว้พระก่อน ท่านอาจารย์บอกว่าที่ให้รางวัลไม่ใช่เพราะพ่อแม่เขาไม่มีปัญญาซื้อให้ลูก พ่อแม่บางคนซื้อของรางวัลให้ลูกมีราคามากกว่าที่ท่านแจกเสียอีก แต่การที่ท่านจัดให้มีพิธีมอบรางวัลดังกล่าวเป็นการเร้าใจเด็กให้เกิดความพากเพียร และภาคภูมิใจในความขยันมั่นเพียรของตนเป็นการสร้างคนด้วยวิธีทางอ้อมอีกอย่างหนึ่ง ส่วนการเลือกจัดในวันวิสาขบูชานั้น จุดประสงค์เพื่อให้เด็กได้ใกล้ชิดกับพระพุทธศาสนาตั้งแต่ยังเล็ก

ในวันนั้นพวกเด็ก ๆ รวมทั้งพ่อแม่ผู้ปกครองจะตื่นเต้นสนุกสนานกันมาก ตลอดงานมีไอศกรีม ขนมน้ำหวานเลี้ยง เด็ก ๆ ต่างคอยฟังว่าเมื่อไรจะถึงคราวตัวเองออกไปรับรางวัล เมื่อประกาศชื่อผู้ใดได้คะแนนสูงเป็นพิเศษ ก็จะมีเสียงฮือฮาพร้อมกับปรบมือดังสนั่น รางวัลส่วนใหญ่จะเป็นของเล่น เครื่องกีฬา หรือไม่ก็เป็นหนังสือ และเครื่องเขียนที่ใช้ประกอบการเรียน ครั้งแรก ๆ ของรางวัลจะไม่มีการห่อกระดาษ วางอวดให้เห็นกันชัด ๆ เลยทีเดียวว่า ฉลากเบอร์ไหนมีรางวัลเป็นอะไร แต่ต่อมาปีหนึ่ง มีหนูน้อยคนหนึ่งหมายตาของเล่นชิ้นหนึ่งไว้ว่าจะต้องจับฉลากเบอร์นี้ให้ได้แต่จับฉลากแล้วเผอิญไม่ได้ ดังนั้น สิ่งที่หนูน้อยผู้นี้อยากทำมากที่สุดในเวลานั้นก็คือร้องไห้แงขึ้นกลางงาน ตั้งแต่นั้นมาท่านอาจารย์เลยขอให้กรรมการแผนกจัดหาของขวัญห่อของรางวัลทุกอย่างให้มิดชิด

เด็กนักเรียนที่เคยได้รับรางวัลจากท่านอาจารย์ ส่วนใหญ่มักจะมีโอกาสศึกษาต่อในสถาบันชั้นสูง หรือไม่ก็มีตำแหน่งหน้าที่การงานที่ดีเหมาะสม บางคนได้รับเหรียญทอง บางคนได้เกียรตินิยมอันดับ ๑ และได้ทุนการศึกษาจากในหลวงองค์ปัจจุบัน (ทุนภูมิพล)

สอนเด็กไม่ให้กลัวผี

(คัดลอกมาจากเทปของผู้ปกครองคนหนึ่ง)

วันหนึ่งมีผู้ปกครองนำเด็กหญิงน่ารักมากราบท่านอาจารย์ ขอให้ท่านสอนเด็กคนนี้ผู้ซึ่งชอบฟังเรื่องผีจากเพื่อน ๆ ที่โรงเรียนแล้วกลัวกลับมานอนคลุมโปงที่บ้านทุกวัน ใคร ๆ จะบอกอย่างไรก็ไม่เชื่อ ท่านอาจารย์ฟังแล้วจึงบอกกับแม่หนูคนนั้นอย่างเมตตาว่า

"หนูจ๋าผีไม่ต้องกลัว อย่าไปเชื่อเพื่อนเขา หนูเป็นคนดีไม่อิจฉาริษยาใคร ผีมันไม่มาทำอะไรได้หรอก หนูท่องพุทโธ พุทโธ เข้าทุกวันสิ ผีมันกลัวคนท่องพุทโธ มันไม่กล้ามาหรอก แล้วอีกอย่างเรื่องนอนคลุมโปงน่ะ ไม่ดีเดี๋ยวหนูจะหายใจไม่ออก เดี๋ยวจะไม่สบายไป"

แม่หนูคนนั้นได้ฟังแล้วยิ้มออก รีบบอกว่า "จริงเจ้าค่ะ เวลาหนูนอนคลุมโปงแล้วเหงื่อแตกพลั่ก หนูหายใจไม่ค่อยออก"

เมื่อผู้ปกครองพาเด็กหญิงน้อยกลับบ้านไปแล้ว ตอนหลังมาเล่าว่าเด็กจะเลิกกลัวผีหรือยังก็ไม่ได้ถามอีก เพราะนับตั้งแต่วันนั้นมาเด็กผู้นั้นไม่เคยนอนคลุมโปงอีกเลย

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ชินเชาวน์ : 19-08-2009 เมื่อ 21:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ชินเชาวน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา