พระอาจารย์เล่าว่า "เมื่อ ๒ วันก่อน อาตมามีเรื่องให้ตื่นเต้น ก็คือ โดน ๑๘ ล้อเบียดตกถนน จะโทษรถ ๑๘ ล้อก็ไม่ได้เพราะว่าอยู่คนละเลน อาตมาอยู่เลนซ้าย เขาอยู่เลนกลาง แล้วยังมีรถเลนขวาอยู่ ปรากฏว่าพอรถของเราเร่งความเร็วขึ้นมาจนถึงประมาณหัวเก๋งของเขา รถ ๑๘ ล้อมองไม่เห็นเพราะว่ากระจกเลยหลังคาไป เขาเห็นว่าว่างก็เบียดซ้ายมาเข้าเลนซ้าย อาตมาก็เหลือแต่ข้างทางให้ลงนะสิ...เพราะไม่มีที่ให้ไป
พอลงข้างทางไป ไม่ทราบเหมือนกันว่ารถโมโหหรืออย่างไร ?กระโดดกลับขึ้นมา รถตกถนนไปแล้วเด้งกลับขึ้นมาเอง แล้วมาปาดหน้า ๑๘ ล้อคืนแบบเฉียดฉิว ประเภท “มึงเบียดกู กูก็ปาดคืน” แล้วก็ปลิวไปถึงเลนที่ ๓ ทางขวาสุด กำลังจะหลุดไปถนนฝั่งตรงข้าม คนขับยืนยันว่าไม่ได้หักหลบ แต่รถเลี้ยวกลับเอง แล้วเสียหลักวิ่งเข้าหาเสาไฟฟ้าทางซ้ายสุด คราวนี้ก็จำเป็นต้องหักหลบ รถก็ตวัดกลับไปถนนฝั่งตรงข้ามทางขวาอีก ตกลงว่ารถคันเดียวใช้ครบ ๓ เลนเลย
ฝั่งตรงข้ามที่รออยู่ ก็คือต้นไม้พร้อมกับเสาไฟฟ้าอีกต้นหนึ่ง จึงต้องหักกลับอีกครั้งหนึ่ง อาตมาคิดในใจว่า “งานนี้กูงามแน่” เพราะรถพลิกตะแคงข้างแล้ว เหลือแค่ ๒ ล้อที่ติดพื้นอยู่ ก็ปรากฏว่ารถเขาคงเล่นพอแล้ว ไม่รู้ว่าลงท่าไหน อยู่ ๆ ก็กระโดดพลิกเหมือนกับจับวางลงไปเฉย ๆ จอดสนิทเรียบร้อย ไม่มีอะไรผิดปกติเลย อยู่กับเลนซ้ายมือเป็นปกติ"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-09-2016 เมื่อ 10:38
|