ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 20-11-2011, 06:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,526
ได้ให้อนุโมทนา: 151,473
ได้รับอนุโมทนา 4,406,323 ครั้ง ใน 34,116 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถ้าถามว่าการที่เราจะรักษาสภาพจิตให้ผ่องใสมั่นคงอยู่ได้นั้น ต้องรักษาถึงระดับไหน ? ถ้าหากว่าถามเช่นนี้ คำตอบที่อยากจะบอกกับทุกท่านก็คือว่า ต้องให้ได้ถึงระดับที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ในมงคลสูตรว่า ผุฏฐัสสะ โลกะธัมเมหิ จิตตัง ยัสสะนะกัมปะติ คือสภาพจิตที่กระทบโลกธรรมแล้วไม่หวั่นไหว ก็แปลว่า ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข เกิดขึ้นกับเรา หรือเสื่อมลาภ เสื่อมยศ นินทา ทุกข์ เกิดขึ้นกับเรา เราก็ไม่หวั่นไหว สามารถรักษากำลังใจให้ตั้งมั่นผ่องใสคงตัวอยู่ได้ตลอดเวลา

อย่างเช่นตอนนี้ ความทุกข์ที่ระดมมาจากน้ำท่วมรอบด้านเกิดขึ้นกับเรา ถ้าหากว่ากำลังใจของเราไม่ทรงตัวถึงระดับกระทบแล้วไม่หวั่นไหว ก็จะต้องเศร้าหมอง ไม่ผ่องใสเป็นธรรมดา

การที่เราจะรักษากำลังใจของเราให้ทรงตัวตั้งมั่น กระทบกับโลกธรรมแล้วไม่หวั่นไหวได้ ก็ต้องเริ่มพื้นฐานจากศีล ไม่ว่าจะเป็นศีล ๕ หรือศีล ๘ ก็ดี ต้องรักษาศีลของเราให้ทรงตัวมั่นคง ไม่ละเมิดศีลด้วยตนเอง ไม่ยุยงส่งเสริมให้ผู้อื่นกระทำ ไม่ยินดีเมื่อเห็นผู้อื่นทำการละเมิดศีลนั้น ๆ

เมื่อเราทุ่มเทสติสมาธิอยู่กับการระมัดระวังตนเองไม่ให้ละเมิดศีล ระมัดระวังไม่ให้ยุยงส่งเสริมให้ผู้อื่นละเมิดศีล ระมัดระวังไม่ให้เรายินดีเมื่อเห็นผู้อื่นละเมิดศีล ก็แปลว่าเรามีกำลังสมาธิที่สามารถจะควบคุมกาย ควบคุมวาจา และควบคุมใจของเราได้แล้ว ถ้าเป็นอย่างนี้ การปฏิบัติในสมาธิภาวนาของเราก็จะทรงตัวตั้งมั่นได้ง่าย เราจะเห็นได้ว่า ศีลเป็นเครื่องหนุนให้สมาธิทรงตัวตั้งมั่นได้ง่าย

เมื่อสมาธิทรงตัวตั้งมั่นแล้ว สภาพจิตมีความผ่องใส ปัญญาก็จะเกิดขึ้น ในช่วงปัญญาที่เกิดขึ้นนี้มีทั้งในส่วนของจินตามยปัญญา คือขบคิดแล้วเข้าใจ ว่าควรต้องประพฤติปฏิบัติอย่างไรจึงจะรักษาสภาพจิตให้ผ่องใสได้ และมีทั้งภาวนามยปัญญา สภาพจิตที่ยอมรับเห็นธรรมดาของโลก เห็นว่าการอยู่ในโลกนี้มีปกติที่จะต้องพบกับลาภ ยศ สรรเสริญ สุข และต้องพบกันเสื่อมลาภ เสื่อมยศ นินทา ทุกข์ เป็นปกติ

จิตใจจะยอมรับ เห็นธรรมดาแล้วปล่อยวางลงได้ ก็จะไม่ไปแบกไปหามความทุกข์เอาไว้ในใจ ให้ตัวของเราต้องเครียดต้องมากลุ้มใจ จากสภาพแวดล้อมที่เกิดจากน้ำท่วมอย่างนี้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-11-2011 เมื่อ 10:10
สมาชิก 64 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา