ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 14-09-2009, 13:30
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,614
ได้ให้อนุโมทนา: 151,817
ได้รับอนุโมทนา 4,413,155 ครั้ง ใน 34,204 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

คราวนี้เรามาดูว่าในสภาพไหนก็ตาม จริง ๆ แล้วเราสามารถจะปฏิบัติได้เหมือนกัน เพียงแต่ว่าการปฏิบัติของเราตอนนี้อยู่ในระดับไหน ถ้าเราไม่มีการไตร่ตรองทบทวนอย่างนี้ โอกาสที่จะก้าวหน้าก็จะมีน้อย เพราะเราจะไม่รู้จักตัวเอง คนที่ไม่รู้จักตัวเองก็เหมือนกับหมอที่ไม่รู้จักสมุฏฐานของโรค รักษาโรคไม่ได้ ยกเว้นว่าบัง้อิญรักษาถูก แต่ก็ไม่แน่ว่าคราวต่อไปเป็นแล้วจะรักษาได้อีกหรือเปล่า เพราะฉะนั้นจึงต้องดู ต้องรู้จักตัวเองให้ดีที่สุด ควบคุม กาย วาจา ใจ ของตนเองให้ดีที่สุด สิ่งใดก็ตามที่ก่อเวรก่อกรรม สร้างทุกข์สร้างโทษให้แก่คนอื่น ด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ ถ้าไม่จำเป็นเว้นได้ก็เว้น ไม่อย่างนั้นแล้ว อาจจะก่อเวรก่อกรรมให้กับเรามากกว่าที่คิดในภายหลัง

ตอนที่ออกจากวัดท่าซุงมา มีคนถามว่าคิดอย่างไร ? อาตมารู้สึกว่าถ้าอยู่วัดท่าซุงต่อไปความก้าวหน้าจะไม่มี เพราะว่าสิ้นหลวงพ่อแล้ว พระทั้งวัดนอกจากจะเอาอาตมาไม่อยู่แล้ว รู้สึกว่าคนที่จะตามอาตมาจะเยอะมากขึ้นทุกที ช่วงนั้นพระมีอยู่ ๔๐ กว่ารูป ถ้าจะสั่งซ้ายหันขวาหันก็พร้อมที่จะตามมาประมาณ ๓๐ รูป แล้วบรรดาฆราวาสต่าง ๆ เขาก็เห็นความสม่ำเสมอ และช่วงท้าย ๆ หลวงพ่อก็เรียกใช้งานประจำ ก็ให้ความสำคัญ มาคิดว่าถ้าอยู่ตรงจุดนั้นอาตมาจะหาความก้าวหน้าไม่ได้แน่นอน เพราะเท่ากับโดนคนอื่นเขาดันไปอยู่ที่สูงแล้ว คนที่ไปอยู่ในที่อย่างนั้น ถ้าขาดความรู้ตัวแม้แต่นิดเดียว จะไม่แสวงหาความก้าวหน้าอีกเลย เพราะคิดว่าเหนือกว่าเขาแล้ว จึงได้ทิ้งออกมา มาดิ้นรนอยู่ข้างนอก เพื่อที่ว่าจะได้ฝึกฝนอบรมตัวเองต่อไปได้ ไม่อย่างนั้นก็จะขาดความพยายาม

จึงขอให้ทุกคนดูว่า ตอนนี้ความรู้สึกของเราก็ดี ความคิดของเราก็ดี อยู่ในลักษณะที่เห็นว่า เราดีกว่าคนอื่นแล้ว เราเหนือกว่าคนอื่นแล้ว โดยเฉพาะในแวดวงเพื่อนฝูงหรือในครอบครัว เรามีความคิดอย่างนั้นไหม ? ถ้ามีเมื่อไรเราจะแสวงหาความก้าวหน้าไม่ได้ เพราะเท่ากับบอกตัวเองว่า เรามาไกลกว่าคนอื่นเขาแล้ว แล้วถ้ากิเลสชวนให้ขี้เกียจ เราจะยิ่งไม่ก้าวหน้าเข้าไปใหญ่ และท้ายสุดก็จะมีลักษณะเดียวกับเท่าที่พบมาก็คือ ระยะเวลาผ่านไป ๔ ปี อาตมาไม่ได้มีความก้าวหน้าอะไรขึ้นมา แต่ทิ้งห่างเพื่อนไปเรื่อย เพราะเขาถอยหลังกันเอง..!

ดังนั้น ถ้าจะมอง..ต้องมองไกลไปข้างหน้า จะได้มีความพยายาม ความมุ่งมั่นบากบั่นที่จะก้าวต่อไป ถ้าหากเรามองไปข้างหลัง โอ๊ย..อย่าเพิ่งลุกขึ้นเดินเลย รายนั้นก็ขี่จักรยานโปเกอยู่ อย่างไรก็ไล่เราไม่ทันแล้ว ระวังจะไปเจอรถสปอร์ต ๓,๐๐๐ ซี.ซี. แซงพรวดเดียวไปถึงไหนก็ไม่รู้..?!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-11-2013 เมื่อ 09:41
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 83 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา