ดูแบบคำตอบเดียว
  #1  
เก่า 14-08-2009, 10:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,566
ได้ให้อนุโมทนา: 151,678
ได้รับอนุโมทนา 4,410,915 ครั้ง ใน 34,156 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันอาทิตย์ที่ ๒ สิงหาคม ๒๕๕๒

ขยับตัวนั่งในท่าที่สบายที่สุดของเรา ถ้านั่งสบายมากไม่ได้ ก็เอาแค่เท่าที่ทำได้ อย่าลืมหายใจเข้าออกยาว ๆ สัก ๒-๓ ครั้งก่อน หลังจากนั้นค่อย ๆ กำหนดความรู้สึกทั้งหมดไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจเข้านึกว่าพุท หายใจออกนึกว่าโธ หายใจเข้าภาพพระไหลเข้าไปในท้อง หายใจออกภาพพระไหลออกมาอยู่บนศีรษะ พยายามทำอย่างนี้ให้มีความคล่องตัวทุกวัน ถ้ามีความคล่องตัวเพียงพอ เราสิ้นชีวิตลงไป เราสามารถที่จะเลือกได้ ว่าเราจะไปเกิดที่ไหน หรือจะไม่นิยมการเกิดเลยจะเข้าสู่นิพพานก็ย่อมได้ ดังนั้นเรื่องอานาปานสติ ลมหายใจเข้าออก เป็นสิ่งสำคัญมาก

ลำดับต่อจากนั้นไปก็เป็นเรื่องของพรหมวิหาร ๔ เราแผ่เมตตาไปสู่สรรพสัตว์ทั้งหลาย ทุกภพทุกภูมิ ทุกหมู่ทุกเหล่า ตั้งความหวังดี ปรารถนาดีแก่เขาทั้งหลายเหล่านั้น ว่าให้เขาทั้งหลายพ้นจากความทุกข์ มีแต่ความสุข อย่าได้มีเวรมีกรรมและเบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย การแผ่เมตตาถือว่าเป็นสิ่งจำเป็น เนื่องจากว่าทำให้กำลังสมาธิของเราทรงตัว ทำให้จิตใจของเราชุ่มชื่นเบิกบาน ไม่อิ่มไม่เบื่อกับการปฏิบัติ เป็นต้น

หลังจากการแผ่เมตตาแล้วเราก็มาดูให้เห็นถึงความทุกข์ ไม่ว่าจะเป็นความทุกข์ของตัวเราก็ดี ของผู้อื่นก็ดี ความทุกข์ทั้งหลายเหล่านั้นล้วนแล้วแต่มีอยู่กับเขาทั้งหลายเหล่านั้นเป็นปกติ ถ้าเราลองนึกย้อนกลับไป ตั้งแต่สมัยที่ยังอยู่ในท้องแม่

การที่อยู่ในท้องแม่นั้นมีความทุกข์หลายประการเหลือเกิน ประการแรก อยู่ในที่แคบต้องคดงออยู่ในท่าใดท่าหนึ่งเป็นเวลาหลายเดือน ทั้งปวดทั้งเมื่อย ประการที่สอง ก็คือ การอยู่ในท้องแม่ต้องเจอกับไฟธาตุในร่างกายของแม่ที่คอยเผาคอยเคี่ยวอยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งสมบูรณ์เพียงพอที่จะคลอดออกมาสู่โลกภายนอกได้ ซึ่งอย่างน้อยก็ประมาณ ๙-๑๐ เดือน หลังจากนั้นคลอดออกมา กระทบความหนักของอากาศ ความร้อนความหนาว เจ็บแสบไปทั้งตัว จะเห็นได้ว่าเด็กเกิดใหม่จะร้องไห้จ้า เพราะว่าทนการกระทบของอากาศไม่ได้ ลักษณะอาการอย่างนั้นเห็นชัดเลยว่าเป็นทุกข์

หลังจากนั้นก็ต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดของชีวิต หิวต้องกิน กระหายต้องดื่ม ปวดอุจจาระ ปัสสาวะต้องถ่าย เจ็บไข้ได้ป่วยต้องรักษาพยาบาล ถ้าหากว่าฐานะทางบ้านไม่ถึงพร้อม ไปโรงพยาบาลไม่ได้ ความทุกข์ทั้งหลายเหล่านี้ก็จะขยายตัวมากขึ้น ดังนั้นเราจะเห็นว่าตลอดเวลาเรามีแต่ความทุกข์ทั้งนั้น

หลังจากนั้นเมื่อเติบโตขึ้นมาก็ต้องศึกษาเล่าเรียน ต้องไปทุกข์กายทุกข์ใจอยู่ที่โรงเรียน ทำการบ้านไม่ทันบ้าง ไม่เข้าใจบทเรียนบ้าง ทะเลาะกับเพื่อนบ้าง จะต้องตรากตรำดูหนังสือในการสอบบ้าง ชีวิตมีแต่ความทุกข์อยู่ตลอดเวลา ถ้าหากว่าโชคดีเรียนเก่ง สามารถที่จะจบตามเวลาที่กำหนด ถ้าโชคไม่ดีเรียนไม่เก่ง ก็อาจจะต้องตกซ้ำชั้น แม้ว่าสมัยนี้จะไม่มีการซ้ำชั้นแล้ว แต่ก็ยังต้องไปเรียนซ่อมจนกว่าจะผ่าน หลังจากนั้นเมื่อเรียนจบแล้ว การที่เติบโตขึ้นมาเป็นหนุ่มเป็นสาว ก็จำเป็นที่จะต้องมีคู่ครองตามสภาพเรียกร้องของธรรมชาติ

พอเริ่มรักใครหวังเขาเป็นคู่ครอง ก็มีความทุกข์เป็นปกติ เนื่องจากว่ากลัวเขาจะไม่รักตอบ กลัวเขาจะไปปันใจให้คนอื่น พยายามที่จะดิ้นรนไขว่คว้าเขามาเป็นของเรา แทบจะกินไม่ได้นอนไม่หลับ เพราะไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายจะรักเราหรือเปล่า ถ้าหากเราเกิดมาพร้อมกับบุญกุศลที่หนุนเสริม เรียนจบได้โดยง่าย คู่ครองก็ยินดีที่จะแต่งงานด้วย เมื่อแต่งงานเข้าไปความทุกข์ก็เพิ่มขึ้น

ก่อนหน้านั้นทุกข์อย่างไรก็ทุกข์คนเดียว แต่ตอนนี้เป็นเรื่องของคนสองคนแล้ว ถ้าหากว่ามีลูกยิ่งมากคนเท่าไหร่ภาระก็มากขึ้นเท่านั้น อย่างที่โบราณเขาว่ามีลูกไปหนึ่งคนจนไปเจ็ดปี สมัยนี้มีลูกหนึ่งคนจนไป ๒๒ ปี อย่างน้อยต้องรอจนกว่าลูกจะเรียนจบปริญญาตรี มาทำงานช่วยเหลือครอบครัว จึงจะพ้นจากสภาพนี้ได้ชั่วคราว

เราจึงได้เห็นว่าความทุกข์อยู่กับเราตลอดเวลา หลังจากแต่งงานไปแล้วก็มีลูก ขันธ์ ๕ ไม่พอ กลายเป็นขันธ์ ๑๐ เป็นขันธ์ ๑๕ มีอีกคนก็เป็นขันธ์ ๒๐ ความทุกข์เกิดขึ้นตลอดเวลา เพียงแต่ว่ามันโดนปิดบังอยู่ ทำให้ไม่สามารถจะมองเห็นได้ชัดเจน เราก็ไม่ได้คิดถึงว่ามันทุกข์

อย่างเช่นว่านั่งนาน ๆ แล้วมันเมื่อย จริง ๆ ความเมื่อยก็คือความทุกข์ แต่เราเคยชินกับการเปลี่ยนอิริยาบถ หรือการเดินไปเดินมา เป็นต้น ในเมื่อตัวเราอยู่กับความทุกข์ เรารู้จักทุกข์แล้วดีพอหรือยัง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 26-12-2009 เมื่อ 14:04
สมาชิก 46 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา