ดูแบบคำตอบเดียว
  #1  
เก่า 17-08-2018, 19:03
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,451
ได้ให้อนุโมทนา: 151,086
ได้รับอนุโมทนา 4,400,018 ครั้ง ใน 34,040 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันอาทิตย์ที่ ๕ สิงหาคม ๒๕๖๑

ให้ทุกคนตั้งกายให้ตรง กำหนดความรู้สึกไว้ที่ลมหายใจเข้าออก หายใจเข้า...ให้ความรู้สึกของเราไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก...ให้ความรู้สึกของเราไหลตามลมหายใจออกมา จะใช้คำภาวนาอย่างไรก็ได้ที่เรามีความถนัด มีความชำนาญมาแต่เดิม

วันนี้เป็นวันอาทิตย์ที่ ๕ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๑ ในส่วนที่พบเห็นมาจากการปฏิบัติธรรมนั้น ส่วนใหญ่แล้วพวกเราทำเพราะอยาก อย่างเช่นว่า อยากทรงฌาน อยากเห็นผี อยากเห็นเทวดา อยากประสบความสำเร็จ เช่น ฝึกอภิญญา ๕ สมาบัติ ๘ ได้ ซึ่งความอยากทั้งหลายเหล่านี้ จะว่าไปแล้วก็เป็นสิ่งที่ดี เรียกว่าเป็นธรรมฉันทะ คือความยินดี ความพอใจในการปฏิบัติธรรมนั่นเอง

เพียงแต่ว่าในส่วนของความอยากนั้น เราต้องควบคุมให้อยู่ในกรอบที่พอเหมาะ พอดี พอควร ถ้าหากว่าเราควบคุมได้ ก็จะเกิดประโยชน์แก่เราอย่างมหาศาล แต่ถ้าเราควบคุมความอยากไม่ได้ ก็จะกลายเป็นความฟุ้งซ่าน ถ้าความฟุ้งซ่านเกิดขึ้น เราก็ไม่สามารถควบคุมกำลังใจให้เป็นหนึ่งได้ การปฏิบัติธรรมของเราย่อมไร้ผล

สิ่งที่ท่านทั้งหลายอยาก ถือว่าเป็นการดี แต่เมื่อเราปฏิบัติภาวนาแล้วต้องลืมความอยากนั้นเสีย เรามีหน้าที่ภาวนา จะได้หรือไม่ได้ก็ช่างมัน ถ้าเราสามารถวางกำลังใจอย่างนี้ได้ การปฏิบัติธรรมนั้นก็จะเป็นของง่ายสำหรับเรา คำว่าง่ายในที่นี้ก็คือ สามารถทรงฌานต่าง ๆ ได้โดยง่าย

และอีกประการหนึ่งก็คือ เรามักจะเกิดความกังวล คิดฟุ้งซ่านล่วงหน้าไป อย่างเช่นว่าห่วงพ่อแม่พี่น้องที่อยู่ทางบ้าน ห่วงกิจการงานที่ทำค้างอยู่ หลายคนก็ห่วงหมาห่วงแมวไปเลย ให้เรานึกอยู่เสมอว่า ตอนนี้เราอยู่ที่นี่ ต่อให้เกิดความห่วงขนาดไหนก็ตาม เราก็ไม่สามารถที่จะทำอะไรได้ เพราะฉะนั้น..มีวิธีเดียวก็คือ ต้องทำใจยอมรับ ให้เห็นว่าธรรมดาของอารมณ์ใจเป็นเช่นนั้น

จนในที่สุด เราก็สามารถที่จะทำกำลังใจให้ทรงตัว เกิดอาการที่ท่านทั้งหลายจะได้ล่วงพ้นจากกองทุกข์ เพราะว่าเมื่อกำลังใจของเราทรงตัวแล้ว รัก โลภ โกรธ หลง ก็จะโดนกดดับลงชั่วคราว เมื่อสภาพจิตของเราไม่มี รัก โลภ โกรธ หลง คอยกวนอยู่ ก็จะเกิดความผ่องใส ทำให้เราทั้งหลายเห็นช่องทางว่าจะรักษาศีล เจริญภาวนาอย่างไรถึงจะก้าวหน้า จะพิจารณาอย่างไรถึงจะเกิดประโยชน์แก่เราอย่างแท้จริง อย่างเช่นว่า ถ้าไปสนใจของยาก ของที่ไม่ตรงกับจริตนิสัยของเรา เราปฏิบัติไปก็อาจจะไม่ได้อะไรเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 20-08-2018 เมื่อ 08:32
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 44 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา