ถาม : พักหลัง ๆ จะไม่จับลมหายใจ สมาธิจะนิ่ง ๆ ตลอด พอนิ่งแล้วก็เฉย ๆ ทีนี้ควรจะทรงอารมณ์นานแค่ไหน ?
ตอบ : ถ้านิ่งไปสักระยะหนึ่งแล้ว รู้ว่าจิตสงบมีกำลังก็ถอยออกมาพิจารณา คือคลายออกมาสู่อารมณ์ปกติ เหมือนที่เราจะคุยกัน เพียงแต่ว่าหลับตาเพื่อป้องกันการฟุ้งซ่าน
แล้วก็พิจารณาให้เห็นความไม่เที่ยง ความเป็นทุกข์ ไม่มีตัวตนของร่างกายเรานี้ ที่มีการเกิดขึ้นในเบื้องต้น เปลี่ยนแปลงในท่ามกลาง สลายตัวไปในที่สุด ให้เห็นได้ในทุกอิริยาบถ พูดง่าย ๆ ว่าไม่ว่าไปไหนก็ให้เห็นทุกข์เอาไว้ ใจจะได้เบื่อและถอนออกมาจากความอยากได้ใคร่ดีต่าง ๆ
ถ้าไม่เบื่อ เราก็จะอยากเกิด อยากทุกข์ต่อ ฉะนั้น..เอาเบื่อให้ได้ก่อน พอเบื่อได้แล้วก็จะค่อย ๆ ปล่อยวางไปเอง
ถาม : ตอนนี้เบื่อมาก ๆ
ตอบ : รักษาความเบื่อไว้ ความเบื่อเป็นสิ่งที่ดี เพราะถ้าไม่เบื่อเราก็ยังอยากเกิดมาทุกข์อีก เพียงแต่ว่าตอนรักษาความเบื่อ สภาพจิตเราต้องมีความฉลาดด้วย คือใช้ปัญญาประกอบไปด้วย จะช่วยตัดการเกิด ตัดชาติ ตัดภพได้
ถ้าเปรียบกับการเวียนตายเวียนเกิดที่นับชาติไม่ถ้วนกับชีวิตเรานี้ เวลาก็แค่นิดเดียวเท่านั้นเอง พูดง่าย ๆ ว่ามีแค่ชั่วลมหายใจเดียวเท่านั้นเอง เราหายใจเข้า..ไม่หายใจออกอาจจะตาย หายใจออก..ไม่หายใจเข้าอาจจะตาย
ในเมื่อถึงเวลาแล้ว โอกาสที่จะตายมีอยู่ตลอดเวลา โอกาสเราจะพ้นจากร่างกายนี้ไปได้มีอยู่ตลอดเวลา ทำไมเราจะอยู่กับร่างกายนี้ไม่ได้ ถ้ากำลังใจอยู่อย่างนี้ ก็จะเริ่มเป็นสังขารุเปกขาญาณ คือปล่อยวาง
ฉะนั้น..พิจารณาบ่อย ๆ ความเบื่อเป็นสิ่งที่ดี ต้องประคองไว้ แต่ขอบอกว่าถ้าอยากได้ อารมณ์นี้ก็จะหนี ไม่อยู่ด้วยแล้ว แต่พอไม่อยากได้ ก็จะอยู่นาน พอรู้ว่าเป็นของดี เราตั้งหน้าตั้งตาเก็บ ก็หนีไปแล้ว ไม่เอากับเราด้วย
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-11-2010 เมื่อ 01:34
|