ดูแบบคำตอบเดียว
  #61  
เก่า 17-10-2010, 11:15
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,586
ได้ให้อนุโมทนา: 151,727
ได้รับอนุโมทนา 4,411,706 ครั้ง ใน 34,176 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เขาไปหาคนที่เขายังไม่รู้ว่าตายเพราะอะไร ไปหลอกหรือคะ ?
ตอบ : เขาคิดถึง เขาเลยมาเยี่ยม อีกอย่างก็คือ ถ้าเขามาลักษณะนั้น เราก็อุทิศส่วนกุศลให้เขาอยู่แล้ว ตอนนั้นอาตมากำลังจะไปทำวัตรเย็นและเจริญกรรมฐานพอดี

ช่วงแรก ๆ ก็ต้องตาลีตาเหลือกรีบไปทำวัตร พอช่วงหลังเลยใช้วิธีขออนุญาตครูนนทาใช้ห้องน้ำในตึก สรงน้ำเสร็จก็รอเวลา ๖ โมงเย็นจึงไปเรียกหลวงพี่ไพบูลย์ให้มารับเวรแทน เราค่อยรีบจ้ำอ้าวไปวิหาร ๑๐๐ เมตร

อาตมาจะเป็นพระ ๑ ใน ๒ รูปในวัดที่เดินเร็วไปวิหาร ๑๐๐ เมตร เพราะส่วนใหญ่ท่านอื่น ๆ จะนั่งรถรางหรือรถอีแต๋นไป ส่วนอีกรูปหนึ่งที่เดินไปวิหาร ๑๐๐ เมตร ตอนนี้ท่านอยู่บ้านข้าง ๆ วัด คราวนี้เห็นหรือยัง พวกรั้น ๆ อยู่วัดไม่ค่อยได้หรอก

ตอนขาไปใช้วิธีเดิน ตอนขากลับเป็นเวลาค่ำแล้ว จึงอาศัยรถอีแต๋นกลับ ตรงนั้นแหละจึงได้เกิดการทดสอบมโนมยิทธิกัน

ทางออกจากวิหาร ๑๐๐ เมตร ถ้าเราสังเกตจะเห็นว่า พอพ้นจากรั้วแล้วจะเป็นถนนเลย ท่านสำออยก็จะขับรถอีแต๋นพากลับ

ท่านสำออย ชื่อนี้ไม่ค่อยมีคนรู้จัก เพราะหลวงพ่อเรียกว่า "ท่านดุ่ย" หลวงพ่อบอกว่า "ไปเมื่อไรก็เห็นทำแต่งานดุ่ย ๆ ไม่สนใจใคร เลยเรียกว่าท่านดุ่ย"

ท่านดุ่ยก็จะคอยถามอาตมาเวลาข้ามถนนว่า "หลวงพี่..ขึ้นถนนได้หรือเปล่า ?" พออาตมาบอกว่า "ได้..ไปเลย" เขาก็แทบจะยกล้อขึ้นถนน ไม่มีเบรกเลย ถึงได้บอกว่า ถ้าวันไหนอาตมาพลาดขึ้นมา ก็คงได้ตายกันทั้งคันรถ..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-10-2010 เมื่อ 16:29
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 160 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา