หรือถ้าสามารถแยกแยะเห็นจนชัดเจนว่า สภาพร่างกายนี้ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา อาการเจ็บไข้ได้ป่วย เวทนาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องของร่างกาย ไม่ใช่เรื่องของเรา ขึ้นชื่อว่าการอยู่กับร่างกายที่เต็มไปด้วยความเจ็บไข้ได้ป่วยอย่างนี้ จะมีกับเราแค่ชาตินี้เท่านั้น ตายลงไปเมื่อไรเราไม่ต้องการร่างกายที่เต็มไปด้วยความทุกข์เช่นนี้อีก เราไม่ต้องการโลกนี้ที่เต็มไปด้วยความทุกข์เช่นนี้อีก เป็นเทวดา เป็นนางฟ้า เป็นพรหมที่พ้นทุกข์เพียงชั่วคราว เราก็ไม่ปรารถนา เราต้องการที่เดียวคือพระนิพพาน แล้วเอาจิตจดจ่ออยู่กับองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบนพระนิพพาน
ถ้าสามารถทำดังนี้ไว้ทุกวัน รักษาอารมณ์ใจให้ตั้งมั่นไว้ได้สักคราวละ ๓ นาที ๕ นาทีอยู่บ่อย ๆ ถ้าท่านหมดอายุขัยตายลงไปก็ดี หรือเกิดอุปฆาตกรรมต้องเสียชีวิตลงไปก็ดี ท่านจะสามารถหลุดพ้นเข้าสู่พระนิพพานได้ดังที่ต้องการ
ลำดับต่อไปก็ให้ทุกท่านตั้งใจภาวนาและพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา
พระครูวิลาศกาญจนธรรม
เทศน์ช่วงกรรมฐาน ณ บ้านวิริยบารมี
วันอาทิตย์ที่ ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษรโดยรัตนาวุธและเถรี)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-02-2013 เมื่อ 02:07
|