ดูแบบคำตอบเดียว
  #5  
เก่า 05-01-2016, 07:18
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,775 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"๕.เวยยาวัจจมัย การขวนขวายงานบุญคนอื่นให้สำเร็จ อย่างพวกเราหลายท่านช่วยกันทำความสะอาด ปัดกวาดเช็ดถูวัดวาอารามก็ดี ช่วยคัดเลือกข้าวปลาอาหารที่บิณฑบาตมาก็ดี หรือว่าวิ่งรับข้าวสารอาหารแห้งจากพระภิกษุสามเณรก็ตาม จัดอยู่ในบุญเวยยาวัจจมัยทั้งสิ้น

ถ้าถามว่าบุญเวยยาวัจจมัยได้มากเท่าไร ? ต้องบอกว่าดูท่าสามเณรจะแพ้โยม เพราะท่านเปรียบไว้ว่าสามเณรบวชได้ ๑๐๐ ปี สมมตินะว่าไม่บวชพระเสียก่อน บวชเณร ๑๐๐ ปี รักษาศีลได้บริสุทธิ์บริบูรณ์ ถ้าได้อานิสงส์ ๑๐๐ ส่วน คนทำเวยยาวัจจมัย ช่วยเหลือขวนขวายงานบุญคนอื่นให้สำเร็จได้ถึง ๘๐ ส่วน โอ้พระเจ้า...สึกกันเถอะเณร ไปทำอย่างอื่นดีกว่านะ

๖.ปัตติทานมัย เมื่อทำความดีแล้วรู้จักอุทิศส่วนกุศลให้แก่บุคคลอื่น ซึ่งก็คือญาติพี่น้องผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว โดยเฉพาะท่านที่มาปฏิบัติธรรมที่นี่ จะมีการอุทิศให้แก่ผู้ที่ทั้งใช่ญาติและไม่ใช่ญาติ ตรงนี้จากประสบการณ์ส่วนตัวของอาตมา ก็คือบรรดาผีต่าง ๆ ถ้าไม่ได้มีความเกี่ยวเนื่องกับเรา เราไม่ได้อุทิศจำเพาะให้ เขาก็ไม่สามารถที่จะโมทนาบุญได้ แต่ถ้าเราบอกว่า “จะใช่ญาติก็ดี ไม่ใช่ญาติก็ดี เสวยสุขอยู่ก็ดี เสวยทุกข์อยู่ก็ดี” ก็แปลว่าครอบคลุมทั้งหมด เขามีสิทธิ์ที่จะโมทนาบุญได้

การที่เราสร้างบุญกุศลมาด้วยความเหนื่อยยาก เหนื่อยแค่ไหนถามคนที่แบกกระสอบใส่อาหารแห้งเมื่อเช้าก็จะรู้ แบกกระสอบแล้ววิ่งไล่ตามรถอีกต่างหาก แทนที่รถจะมองข้างหลังว่าเขาแบกกระสอบมา ก็ขับไปเรื่อย ๆ คนวิ่งก็เหนื่อยสิครับ ในเมื่อเราสร้างบุญมาโดยยาก ยังอุตส่าห์ตั้งใจแบ่งปันให้กับคนอื่น กำลังใจของเราที่ประกอบไปด้วยความเมตตาและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ขนาดนั้น จึงเป็นบุญเป็นกุศลอย่างยิ่ง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-01-2016 เมื่อ 12:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 92 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา