เรื่องในลักษณะนี้ หลวงพี่ท่านเคยเล่าให้ฟังว่า(เท่าที่ผมพอจำความได้นะครับ)
"มีแม่ลูกอยู่คู่หนึ่ง แม่เป็นผู้มีความเคารพในพระรัตนตรัยมาก ส่วนลูกมีอาชีพเป็นพ่อค้าออกเรือเดินทะเล
มีวันหนึ่ง ลูกชายได้แจ้งแด่ผู้เป็นแม่ว่า ตนเองจะออกเดินทางไปที่แห่งหนึ่ง ผู้เป็นแม่ได้ยินดังนั้นก็ดีใจ กำชับกำชาสั่งกับลูกไว้ว่า ถ้าลูกเสร็จธุระ ขอให้อัญเชิญพระธาตุพระสารีบุตรมาให้แม่บูชาให้ชื่นใจสักหน่อยหนึ่งเถิด ฝ่ายลูกก็รับปากผู้เป็นแม่อย่างแข็งขัน
ผลปรากฏว่า หลังจากตัวลูกชายเดินทางไปค้าขายจนเสร็จธุระ ในขณะเดินทางกลับมาสู่บ้านนั้น พลันนึกขึ้นได้ว่าก่อนไปแม่ได้สั่งนักสั่งหนาว่าให้อัญเชิญพระธาตุพระสารีบุตรมาให้บูชา แต่ตนเองมัวสาละวนกับการค้าจนทำให้ลืมคำสัญญากับแม่ไป
ในขณะที่กำลังเดินกลับบ้านอยู่นั่นเอง สายตาก็เหลือบไปพบซากของสุนัขนอนตายอยู่ข้างทาง จึงเกิดอุบายคิดว่า เราจะนำเอาเศษกระดูกของซากสุนัขตัวนี้เอากลับไปให้แม่ แล้วจะบอกกับแม่ว่าเป็นพระธาตุของพระสารีบุตร เพื่อที่จะได้ไม่ถูกต่อว่าและแม่ไม่เสียกำลังใจ
ครั้นกลับถึงบ้าน เมื่อผู้เป็นแม่ได้รับพระธาตุ(ที่ลูกนำมาจากซากสุนัข) ก็เกิดความดีใจปลาบปลื้ม รีบนำขึ้นสู่ที่บูชาแล้วทำการบูชาด้วยดอกไม้ เครื่องหอม ต่าง ๆ นั่งกราบไหว้ระลึกนึกถึงคุณแห่งพระศรีรัตนตรัยอยู่เป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ
ฝ่ายลูก เมื่อเห็นแม่มีความสบายใจก็โล่งใจ คิดแต่เพียงว่าเมื่อแม่มีศรัทธาการสักการะกระดูกสุนัขก็คงจะทำให้แม่มีความสุขได้แล้ว
ปรากฏว่าวันหนึ่ง ขณะที่ฝ่ายแม่กำลังทำการบูชาสักการะพระธาตุอันนั้นอยู่นั่นเอง พลันเกิดเหตุมหัศจรรย์ โดยองค์พระธาตุนั้นบังเกิดมีแสงสว่างโชติช่วงเป็นฉัพพรรณรังสีรัศมีหกประการสว่างไปทั่วทั้งเรือน คนเป็นลูกตกใจจึงรีบออกมาดู พบว่าพระธาตุ(กระดูกสุนัข)นั้น ได้กลายเป็นพระธาตุของพระสารีบุตรไปจริง ๆ เสียแล้ว...
พุทโธ อัปปมาโณ คุณแห่งพระพุทธเจ้าหาประมาณมิได้
ธัมโม อัปปมาโณ คุณแห่งพระธรรมหาประมาณมิได้
สังโฆ อัปปมาโณ คุณแห่งพระอริยสงฆ์หาประมาณมิได้
"ถ้าใจเราถึงพระ พระท่านก็ถึงเรา"
|