ดูแบบคำตอบเดียว
  #22  
เก่า 27-02-2009, 13:49
คนเก่า's Avatar
คนเก่า คนเก่า is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
สถานที่: ชมพูทวีป
ข้อความ: 189
ได้ให้อนุโมทนา: 21,727
ได้รับอนุโมทนา 55,279 ครั้ง ใน 1,402 โพสต์
คนเก่า is on a distinguished road
Default

พาออกนอกเรื่องไป ก็ต้องพาเลี้ยวกลับ ใช้หนี้ท่านทิด ผู้เริ่มเรื่องสงครามเก้าทัพ ด้วยพระราชนิพนธ์นิราศท่าดินแดง

นิราศเรื่องนี้ได้ทรงพระราชนิพนธ์ เมื่อ พ.ศ. ๒๓๒๙ เมื่อคราวเสด็จไปทรงทำศึกกับพม่า ที่ยกมารุกรานไทยที่ท่าดินแดง ทรงเสด็จไปการทัพครั้งนี้พร้อมกับ กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท ได้เสด็จโดยขบวนเรือจากกรุงเทพ ฯ ไปจนถึงเมืองไทรโยค แล้วจึงเดินทัพทางบกต่อไป

พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้า ฯ ทรงเข้าตีค่ายพม่าที่ท่าดินแดง ในขณะที่กรมพระราชวังบวร ฯ ทรงเข้าตีค่ายพม่าที่ตำบลสามสบ ได้เข้าตีค่ายพม่าพร้อมกันทั้งสองทัพ เมื่อวันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๓๒๙ รบกันอยู่ สามวัน ถึงวันที่ ๒๓ เวลาบ่าย ฝ่ายไทยตีฝ่าเข้าค่ายพม่าได้ และได้รบติดพันกันอยู่จนพลบค่ำ พม่าจึงทิ้งค่ายแตกหนีไป กองทัพไทยได้ไล่ติดตามไปถึงค่ายพระมหาอุปราชา ที่ตำบลแม่กษัตร พระมหาอุปราชารู้ว่ากองทัพหน้าแตกแล้วก็ไม่ให้คิดต่อสู้ กองทัพพม่าแตกยับเยิน เสียรี้พลและอาวุธยุทโธปกรณ์มากมาย โดยเฉพาะปืนใหญ่ไม่สามารถจะลากกลับไปได้แม้แต่กระบอกเดียว

แสนรักสุดรักภิรมย์สมร
ทุกอนงค์ทรงลักษณ์อันสุนทร
สถาวรพูนสวาดิสวัสดี
ประกอบศักดิ์สมบูรณ์จำรูญเนตร
อัคเรศงอนงามจำเริญศรี
แสนกระสันปั่นป่วนฤดีทวี
มีมโนเสน่ห์น้อมถนอมนวล
อันราคีมิให้เคืองระคางข้อง
ปองประคองนิ่มเนื้อนวลสงวน
หวังสวาสดิ์มิรู้ขาดอารมณ์ครวญ
เป็นที่ชวนชูชื่นทุกอิริยา
เกษมสุขภิรมย์สมสมาน
เคยสำราญมิได้แรมนิราศา
ไม่นิราศขาดชมสักเวลา
บำเรอล้อมพร้อมหน้าไม่ราวัน

นิจาเอ๋ยโอ้กรรมจึงจำไกล
มาซ้ำให้ทุเรศร้างมไหสวรรย์
ก็เพราะมีอธิราชไภยัน
เข้าหักหั่นด่านแดนบุรีรมย์

จึงต้องกรูกรีธาพลากร
มาจำจรจากสุขเกษมสม
สารพัดสิ่งสวัสดิ์ที่เคยชม
ก็นิยมให้วิโยคด้วยจำเป็น


เมื่อวันออกนาเวศทุเรศสถาน
แสนสงสารสุดอาไลยใครจะเห็น
พี่เคยทัศนาเจ้าทุกเช้าเย็น
เพราะเกิดเข็ญจึงต้องละสละมา
ครั้นถึงด่านดาลเทวษทวีถึง
คนึงในให้หวนละห้อยหา
ถึงนางนองเหมือนพี่นองชลนา
ยิ่งทวาอาวรณ์สท้อนใจ
ครั้นถึงโขลนทวารยิ่งลานแล
ให้หวาดแหวอารมณ์ดังลมไข้
จนลุล่วงคลองชลามหาไชย
ย่านไกลสุดสายในตาแล
เหมือนอกเราที่นิรามาทุเรศ
เหลือสังเกตมุ่งหามาห่างแห
ระกำเดียวเปลี่ยวดิ้นฤดีแด
จนล่วงกระแสสาครบุรีไป
ลุสถานบ้านบ่อนาขวาง
ให้อางขนางร้อนรนกมลไหม้
ถึงย่านซื่อเหมือนพี่ซื่อสังวรใจ
มิได้มีลำเอียงเที่ยงธรรม
เมื่อถึงสามสิบสามคดแล้ว
แคล้วแคล้วเหมือนจะกลับมารับขวัญ
คล้ายคล้ายอัษฎงค์พระสุริยัน
ก็บรรลุถึงคลองสุนัขใน
พอชลาถอยถดลดลงฝั่ง
เรือดั่งเคืองเขินไม่เดินได้
พลพายรายกันลงเข็นไป
เหมือนเข็ญใจเคืองจิตที่จากมา
ครั้นเพลาสุริยาอรุณเรือง
แสงประเทืองเบื้องบูรพ์ทิศา
พอตกลึกแล้วให้ล่องนาวาคลา
ประทับท่าเมืองสมุทรบุรีรมย์
อันฝูงชนชาวบ้านย่านนั้น
ผิวพรรณไม่รื่นรวยสวยสม
ไม่เป็นที่ชวนชื่นอารมณ์ชม
ยิ่งเกรียมกรมสุดแสนระกำใจ
ให้ปั่นป่วนหวนสวาสดิ์ประวัติหา
จะดูใครไม่พาใจชื่นได้
จึงให้ออกนาวาคลาไคล
รีบไปตามสายชลธี
อันเรือหลังดั้งกันสิ้นทั้งหลาย
ก็พายแซงแข่งขึ้นไปอึงมี่
โห่สนั่นครั่นครื้นทั้งนาวี
มีแต่ความเกษมสุขไปทุกคน
เสียงเส้าเร้าเร่งพลพาย
เหมือนรักหมายสายสวาททุกขุมขน
ให้อักอ่วนป่วนจิตจลาจล
ถึงตำบลบางกุ้งเป็นคุ้งเลี้ยว
ยิ่งลับไม้ไกลเนตรทุเรศสถาน
ให้แดดาลหวั่นหวั่นกระสันเสียว
ดังเอกามาแต่นาวาเดียว
เปลี่ยวสวาสดินิราศไร้ภิรมย์ชม
มาถึงย่านนกแขวกแสกส่งเสียง
ทั้งสำเนียงถอนใจเพียงใจล่ม
เคยยินเสียงประโคมขานสำราญรมย์
โอ้ครั้งนี้มาระงมแต่เสียงนก
แสนทุเรศเวทนานิจาเอ๋ย
นี่ใครเลยจะเล็งเห็นในอก
ได้ระกำช้ำใจมาหลายยก
หวังจะป้องปิดปกให้พ้นไภย
มิให้หมู่พาลาอาธรรม์
มาย่ำยีเขตขัณฑ์บุรีได้
จึงสู้สละรักหักใจ
มาทนเทวษอยู่ไกลเอกา .........

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย คนเก่า : 25-05-2009 เมื่อ 14:27 เหตุผล: แก้เป็นเลขไทย
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ คนเก่า ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา