ลูกหลานเอย.. ชีวิตวัดท่าซุงระยะนั้นยังมีอันตรายจากคนพาลรอบวัด และผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ ซึ่งมีค่ายใหญ่บัญชาการอยู่ที่อำเภอบ้านไร่ ในหุบเขาลึกใต้ป่าไม้ดึกดำบรรพ์ พ่อ ..หลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง เป็นพระสงฆ์องค์หนึ่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงเคารพนับถือเป็นครูบาอาจารย์ เป็นเป้าหมายหนึ่งที่อาจจะใช้ต่อรองทางการเมืองที่ร้อนระอุขณะนั้นได้ ทางกองบัญชาการทหารสูงสุด ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นศิษย์พ่อ จึงส่งทหารมาอารักขาพร้อมอาวุธ เข้าเวรยามหน้าวัดคึกคักเข้มเข็ง
แต่ภายในวัดสิ ลูกเอย.. เลือดทหารทั้งทหารที่บวชพระและจิตวิญญาณทหารหาญในอดีตชาติที่บวชเป็นพระอยู่ ก็พร้อมใจกันจัดเวรยามผลัดละ ๒ องค์ เดินถือไม้แก่นตาลยาวเท่าศีรษะ เป็นไม้อาญาสิทธิ์สัญลักษณ์การเข้ารักษาหน้าที่ เดินไปรอบ ๆ วัด และดูจุดมืดเร้นลับที่สะกิดใจสงสัย ครบ ๒ ชั่วโมงก็เดินเอาไม้ไปกระทุ้งฝากุฏิเวรผลัดต่อไปแล้วก็วางไว้หน้าห้อง ผลัดต่อไปก็เดินภาวนาหรือคุยธรรมะกันไป เวียนไปอย่างนี้จนถึงเวลาออกบิณฑบาต จึงวางไม้ได้
ถามไหมลูก.. ว่าถึงขนาดนั้นเชียวหรือ?
อย่างนั้นทีเดียวล่ะ!
และยิ่งกว่านั้นอีกนะลูกหลาน
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ทาริกา : 05-08-2009 เมื่อ 15:26
|