ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 15-04-2024, 23:50
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,614
ได้ให้อนุโมทนา: 151,817
ได้รับอนุโมทนา 4,413,188 ครั้ง ใน 34,204 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้กระผม/อาตมภาพนั่งรับน้ำสรงจากพระภิกษุ สามเณร แม่ชีและฆราวาส ประมาณ ๑ ชั่วโมง เมื่อเลิกจากการรับแล้ว ปรากฏว่าสองมือคันไปหมด ต้องรีบมาล้างน้ำฟอกสบู่เสียใหม่ คาดว่าเกิดจากดอกไม้ที่พวกเราใช้โรยหน้าน้ำอบน้ำหอม คงจะมีการไปแช่สารบางอย่าง ที่ทำให้ดอกไม้นั้นสดอยู่นาน แต่ว่าเป็นพิษกับผิว กระผม/อาตมภาพก็ยังเป็นห่วงว่า ถ้าเอาไปสาดใส่กันแล้วเกิดไปเข้าตาคนอื่น จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ?!

บ้านเราเมืองเราส่วนหนึ่ง คนเราเห็นแก่เงินก็มักจะทำในสิ่งที่บางทีกฎหมายก็ห้าม อย่างเช่นว่าเอาอาหารทะเลไปแช่สารฟอร์มาลดีไฮด์ เพื่อที่ให้สดอยู่ในท้องตลาดได้นาน ๆ ส่วนคนกินจะเป็นจะตายอย่างไรก็ช่างมัน..! หรือว่าในส่วนที่เจอมา ก็คือเรื่องของดอกไม้สด มักจะใช้สารประเภทนี้ในการฉีดพ่น หรือว่าผสมน้ำแล้วแช่ เพื่อที่ให้ดอกไม้อยู่ได้นาน ๆ

แต่ถ้าท่านทั้งหลายรู้จักสังเกตจะเห็นว่า ถ้าเป็นพวงมาลัยหรือดอกไม้สดที่ผ่านสารพวกนี้มา จะสดชื่นอยู่ได้หลายวัน แล้วก็ปุบปับเน่าไปเลย จะไม่มีการค่อย ๆ เหี่ยว ค่อย ๆ เฉา เหมือนดอกไม้ตามปกติ เหมือนอย่างกับว่าพอสารที่แช่เอาไว้หมดฤทธิ์ ดอกไม้เหล่านั้นก็จะอยู่ในสภาพที่ว่าค้างมาหลายวัน ถ้าปล่อยตามปกติ ก็จะเหี่ยวแห้งไป แต่ด้วยความที่เซลล์ต่าง ๆ ของดอกไม้น่าจะโดนทำลายด้วยน้ำยาเหล่านี้ เมื่อถึงเวลาจึงหมดสภาพเน่าเละไปเลย

ดังนั้น..เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ จะว่าเป็นเรื่องเล็กก็เล็ก จะว่าเป็นเรื่องใหญ่ก็ใหญ่ เนื่องเพราะว่าเราทำโดยขาดความซื่อสัตย์ต่อวิชาชีพของตน ก็คือการค้า ถ้าเป็นคนโบราณเขาบอกว่า "ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน" ก็คือถ้าเราซื่อตรงจริงใจต่อลูกค้า ใคร ๆ ก็อยากจะมาซื้อของกับเรา

แต่ถ้าหากว่าเราเอาของปลอม ของปน ของไม่ดีใส่รวมกับของดีที่ขาย หรือแม้กระทั่งใช้สารที่เป็นพิษต่าง ในการที่จะแช่อาหารเพื่อให้อยู่นาน ๆ หรือว่าสิ่งของเพื่อให้อยู่นาน ๆ โดยไม่ได้คำนึงว่าจะสร้างความเป็นพิษให้กับผู้ที่นำไปบริโภคใช้สอยหรือไม่ ? ถ้าหากว่าเป็นของใช้ก็ยังพอทน ถ้าเป็นของกิน กระผม/อาตมภาพอยากยกตัวอย่างเรื่องหนึ่ง

ก็คือมีพระไทย ๕ รูป ไปเที่ยวประเทศเวียดนาม แล้วก็ไปฉันซูชิ ซึ่งความจริงถ้าว่ากันตามพระธรรมวินัย
พระห้ามฉันของสด แต่ท่านทั้งหลายเหล่านั้นอาจจะเห็นว่า "แค่เรื่องของการกิน ปลงอาบัติก็จบแล้ว" ก็เลยฉันซูชิเข้าไป ปรากฏว่าเกิดอาการเป็นพิษ ส่งโรงพยาบาลแล้วมรณภาพไป ๔ รูป..! ซึ่งทั้ง ๔ รูปนั้นมาจากจังหวัดราชบุรี อีก ๑ รูปเป็นพระของจังหวัดกาญจนบุรีนี่เอง รู้จักคุ้นเคยกับกระผม/อาตมภาพด้วย ท่านเป็นหมอยาสมุนไพร เมื่อรู้ตัวก็รีบเอายาสมุนไพรที่ติดไปกินถอนพิษ จึงทำให้รอดมาได้..!

แล้วมาภายหลัง ทางด้านสาธารณสุขของเวียดนามเอาเนื้อปลาเหล่านั้นไปพิสูจน์ ปรากฏว่าแช่สารฟอร์มาลดีไฮด์มาทั้งนั้น ได้รับเงินชดเชยมาเยอะมาก ศพละ ๕๐,๐๐๐ บาท..! คุ้มหรือเปล่าก็ไม่รู้ ? แต่ถ้าหากว่าคิดเป็นเงินของเวียดนามก็มากโขอยู่เหมือนกัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-04-2024 เมื่อ 02:30
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา