ถาม : เขาพูดถึงการบรรลุธรรม ?
ตอบ : ต้องบอกว่าแล้วแต่ระดับของเขา ตรงนี้ที่เขาเรียกการบรรลุธรรมว่า "ซาโตริ" บางท่านบอกว่าซาโตริเกิดขึ้นได้ครั้งเดียว แต่บางท่านบอกว่าเกิดแล้วเกิดเล่า เกิดจนนับครั้งไม่ถ้วน ถูกทั้งคู่ คนที่ซาโตริครั้งเดียว คือเข้าถึงหลักธรรมชั้นสูงไปเลย คนที่เกิดซาโตริแล้วเกิดอีก อาจจะเป็นอุปจารสมาธิ แล้วมาปฐมฌาน ฌานสอง ฌานสาม ฌานสี่ ไล่ไปเรื่อย
คนที่ต่างระดับกัน ไปคุยกันก็เถียงกันตาย เราไม่ต้องเสียเวลาไปเถียงกับเขาหรอก ปล่อยเขาไปเถอะ
เป็นการบรรลุธรรมของเขา จริง ๆ แล้วก็คือ ลักษณะการตื่นรู้หรือเข้าถึงธรรมอย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่แน่..บางคนก็แค่ทรงฌานได้ พอเข้าถึงตรงนั้นก็เข้าใจว่าตนเองได้อะไรแล้ว จึงถือว่าเป็นการซาโตริ
ถาม : เขาปล่อยวางได้ แบบไม่สนใจคนอื่น ?
ตอบ : แค่ตรงนั้นเดี๋ยวนั้น
ถาม : หรือคะ ? ไม่ใช่ทั้งวันหรือคะ ? แบบเอาไปวางใส่คนอื่น ?
ตอบ : ไม่ใช่จ้ะ การวางใส่หัวคนอื่นนั่นไม่ใช่หลักธรรม
ถาม : คือเขาไม่ได้ตั้งใจ จะถือว่าเป็นเครื่องรู้ ?
ตอบ : เป็นระดับหนึ่งของการพัฒนา ตราบใดที่ยังก้าวข้ามไม่ได้ ก็จะยังเป็นอย่างนั้นอยู่ จนกว่าเขาจะเห็นว่าสิ่งนี้ยังไม่ดีจริง แล้วก็กลับตัวใหม่ เพราะดีแค่ตอนนี้ ดีแค่เดี๋ยวนี้ แล้วเขาก็จะไปยึดมั่นถือมั่นว่าตรงนั้นใช่ แต่พอก้าวไปถึงตรงนั้นจะว่าดีกว่านี้ เขาก็จะไปยึดมั่นตรงนั้นอีกว่าดีกว่า ตรงนี้ไม่ใช่ กว่าจะก้าวข้ามได้ก็นาน ฉะนั้น..บางช่วงต้องรอการขัดเกลาก่อน ถ้าเกลาไม่ได้เรื่องไม่ได้ราว ก็อาจจะโดนคนด่าบ้าง ว่าบ้าง หรือถึงกับมีการลงไม้ลงมือก็ได้
ถาม : พร้อมจะมีเมตตาต่อตนเองและคนรอบข้าง ?
ตอบ : จะมีปัญญารู้ว่าอะไรที่เหมาะกับกาละ คือเวลานั้น กับเทศะคือสถานที่นั้น แล้วก็ทำในสิ่งที่เหมาะที่ควร ที่ไม่ตรงกับกาลเทศะก็ทิ้ง ๆ ไปบ้างเถอะ
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-06-2015 เมื่อ 03:05
|