พระอาจารย์กล่าวว่า "ช่วงที่อาตมาปฏิบัติธรรมของพระอุปัชฌาย์ใหม่อยู่ ป้าตุ่นซึ่งเป็นกรรมการวัด ขับรถเหยียบไอ้ทิดของวัดหัวบี้กระจายเต็มถนนเลย เหตุเพราะว่าไอ้ทิดของเราขับรถไป มือหนึ่งก็กดโทรศัพท์ไป รถมอเตอร์ไซค์นะ ขับมือเดียวสนุกหรือ ? ก็เลยล้ม กระเด็นไปอยู่ใต้ท้องรถที่กำลังวิ่งมา พาความซวยมาเกิดกับป้าตุ่นโดยไม่ได้เจตนา ขับรถอยู่ดี ๆ มีคนเอาหัวมาให้เหยียบ
บรรดาพระวัดท่าขนุนก็วิพากษ์วิจารณ์ว่า เป็นเพราะไม่ได้ใส่หมวกกันน็อกอย่างดี อาตมาก็เลยบอกว่า ต่อให้ใส่หมวกกันน็อกอย่างดีเขาก็เก็บได้ง่ายหน่อย ลองเอาหัวยื่นไปใต้ล้อ มีหมวกกันน็อกอีก ๒ ใบก็ช่วยไม่ได้หรอก
ปัจจุบันนี้โทรศัพท์โดยเฉพาะไลน์ เป็นอันตรายต่อการขับขี่ยานพาหนะอย่างมาก แต่ก็มักจะประมาทกัน พอเกิดเหตุขึ้นมาก็เดือดร้อนทั้งครอบครัวตัวเองและคนอื่น
คนตายชื่อทิดโอ ได้ยินแล้วสะดุ้งไหม ? (หัวเราะ) ทิดโอเหมือนกับรู้ว่าตัวเองหมดบุญนะ มาเป็นลูกศิษย์ถือกระป๋องตามพระ บิณฑบาตอยู่ตั้งหลายอาทิตย์ แต่ก็ไม่พอช่วยตัวเอง ตายจนได้ คือการถือกระป๋องตามพระบิณฑบาต ถ้าสักแต่ว่าเดินตามไปก็บุญน้อยไปหน่อย ต้องเดินไปภาวนาไป เหมือนอย่างกับอาตมาเวลาเดินนี่จะภาวนาได้น้ำได้เนื้อมาก ก็เลยชอบเดินธุดงค์โดยการเดินยาว ๆ ๓๐-๔๐ กิโลเมตรเป็นอย่างน้อยต่อวัน ถ้าวันไหนประเภทคึกขึ้นมา ๘๐-๙๐ กิโลเมตรก็ไปได้ ก็เลยไม่มีใครอยากเดินด้วยเพราะเดินตามกันไม่ไหว"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-04-2016 เมื่อ 04:21
|