เมื่อปัญญาของเราเห็นถึงตรงนี้ ก็จะเกิดความเบื่อหน่าย เพราะเห็นว่าธรรมชาติของร่างกายนี้ก็ดี ร่างกายอื่นก็ดี ล้วนแล้วแต่ประกอบไปด้วยความไม่เที่ยง ความเป็นทุกข์ ท้ายสุดก็เสื่อมสลายตายพัง ไม่มีอะไรให้ยึดถือมั่นหมายได้ สภาพจิตก็จะเกิดความเบื่อหน่ายในร่างกายนี้
เมื่อเบื่อหน่ายในร่างกายนี้ ก็ย่อมเบื่อหน่ายในร่างกายของคนอื่น เมื่อเบื่อหน่ายทั้งร่างกายของตนเองและคนอื่น ก็ย่อมเบื่อการที่จะมาเกิดในโลกนี้ สภาพจิตของเราก็จะถอนออกจากการยึดมั่นถือมั่น ทำให้เราสามารถหลุดพ้นไปสู่พระนิพพาน ดังนั้น...ท่านทั้งหลายจึงต้องยึดหลักของไตรสิกขา คือ ศีล สมาธิ ปัญญา เอาไว้ให้มั่นคง และตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติอย่างจริง ๆ จัง ๆ สามารถอยู่กับความดีได้ตลอด ๒๔ ชั่วโมงเลยยิ่งดี
ลำดับต่อไปขอให้ทุกท่านตั้งใจภาวนาและพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านวิริยบารมี
วันอาทิตย์ที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๙
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย รัตนาวุธ)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-11-2016 เมื่อ 20:45
|