ในเมื่อครูบาอาจารย์ ซึ่งเปรียบเหมือน 'ดอกบัวพ้นน้ำ' พร้อมที่จะบานทันทีที่กระทบแสงแห่งธรรม มรณภาพแล้ว ไปอยู่อรูปพรหมทั้งคู่ ไม่สามารถที่จะเทศน์โปรดได้ไม่ว่าจะวิธีการใด ๆ
เนื่องเพราะว่าเขาไม่ต้องการทั้งร่างกาย ไม่ต้องการทั้งอายตนะ คือ เครื่องติดต่อ ไม่ต้องการทั้งวิญญาณ คือ ประสาทความรู้สึก ไม่ต้องการทั้งสัญญา คือ ความรู้ได้หมายจำ จึงไม่มีอะไรที่สามารถติดต่อได้ เหมือนอย่างกับมีโทรศัพท์อยู่ก็ปิดเครื่องทิ้งเสีย ก็ต้องรอให้พ้นจากวาระการเป็นอรูปพรหม ก็คือ..รอให้มาเกิด เหมือนกับเปิดเครื่องโทรศัพท์ใหม่ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะเนิ่นนานอีกกี่หมื่นกี่แสนกัป
องค์สมเด็จพระจอมไตรจึงได้นึกถึงปัญจวัคคีย์ฤๅษีทั้ง ๕ ซึ่งได้ให้การอุปถัมภ์อุปัฏฐากพระองค์ท่านมาอยู่ ๖ ปี แต่เมื่อองค์สมเด็จพระชินสีห์บรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้ากลับมาดำเนินทางสายกลาง ซึ่งขัดกับความเชื่อของคนยุคนั้น ปัญจวัคคีย์จึงหลีกไปอยู่ที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน แขวงเมืองพาราณสี
องค์สมเด็จพระมหามุนีจึงเสด็จไปเทศน์โปรด จนปัญจวัคคีย์ฤๅษีทั้ง ๕ ซึ่งมี อัญญาโกณฑัญญะเป็นหัวหน้า มีดวงตาเห็นธรรม แล้วฟังอนัตตลักขณสูตร บรรลุอรหัตผล องค์สมเด็จพระทศพลบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าจำพรรษาร่วมกับปัญจวัคคีย์ ที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวันเป็นพรรษาแรก จนกระทั่งออกพรรษา แล้วจึงแยกย้ายกันไปประกาศพระพุทธศาสนา
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย หยาดฝน : 01-08-2023 เมื่อ 23:00
|