ดูแบบคำตอบเดียว
  #5  
เก่า 14-04-2022, 00:03
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,625
ได้ให้อนุโมทนา: 151,867
ได้รับอนุโมทนา 4,413,775 ครั้ง ใน 34,215 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เพียงแต่ว่าในวันรุ่งขึ้นนั้น แม้ว่าตั้งใจรักษาศีล ๘ แล้วก็ตาม ด้วยอุปาทานทำให้คิดว่า ถ้าเราไม่กินข้าวเย็นน่าจะหิว จากที่เคยกินข้าวกลางวัน ๑ จานจึงเพิ่มเป็น ๒ จาน แต่ปรากฏว่าเป็นแค่อุปาทานจริง ๆ เพราะว่าหลังเพลแล้วก็เหมือนกับคนคอหอยตัน ไม่รับอาหารทั้งปวง ยกเว้นแต่น้ำเปล่า

ตั้งแต่บัดนั้นจนบัดนี้ ก็คือประมาณปี ๒๕๒๗ จนป่านนี้ ก็ไม่ได้มีความอยากกินข้าวเย็นกับใครเลย ถ้าญาติโยมสังเกตจะเห็นว่า หลังทำวัตรค่ำซึ่งมีการถวายน้ำปานะแก่พระภิกษุสามเณร กระผม/อาตมภาพไม่เคยรับกับใคร แต่ตรงนี้ไม่ใช่สาระสำคัญ และคาดว่าญาติโยมก็ลืมไปแล้วว่าสาระสำคัญอยู่ตรงไหน สาระสำคัญอยู่ตรงการตัดสินใจว่าเราจะทำอะไร

สมัยพุทธกาลบุคคลที่ตั้งใจฟังธรรมจากองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสถึงวิธีการปฏิบัติธรรม ตรัสถึงหลักการการปฏิบัติเพื่อพ้นจากกองทุกข์ ท่านทั้งหลายเหล่านั้นก็ตัดสินใจเลยว่า "สิ่งนี้เราทำได้ เราจะรับมาทำตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป"

ดังนั้น...ท่านทั้งหลายจึงกลายเป็นพระโสดาบันบ้าง พระสกทาคามีบ้าง พระอนาคามีบ้าง พระอรหันต์บ้าง เพราะว่ามีการตัดสินใจที่เด็ดขาด ที่ภาษาบาลีใช้คำว่า สมุจเฉทปหาน ก็คือตัดกันอย่างเด็ดขาดทีเดียว ดังนั้น...การปฏิบัติธรรมของพวกเรา ถ้ายังไม่มีสิ่งหนึ่งประการใดให้ต้องตัดสินใจอย่างเด็ดขาด โอกาสที่จะเข้าถึงมรรคถึงผลก็ยังไม่มี

แม้กระทั่งการรักษาศีลเบื้องต้น ถ้าหากเรามีโอกาสละเมิดศีล สมมติว่าไปเห็นสิ่งของที่เราอยากได้สุดขีด เงินมีไม่พอซื้อ แต่ของนั้นมาอยู่ใกล้มือของเรา ผู้คนก็ไม่ได้มองเห็นว่าเราจะหยิบหรือไม่หยิบอย่างไร ถ้าเราสามารถตัดใจไม่หยิบฉวยมา นั่นถึงจะนับได้ว่าเราเป็นผู้มีศีลจริง ๆ แต่ถ้าตราบใดที่ยังไม่มีการทดสอบในลักษณะแบบนี้ เราก็ไม่สามารถกล่าวได้ว่าเราเป็นบุคคลผู้ที่มีศีลอย่างแท้จริง

ในเรื่องของการปฏิบัติธรรมก็เช่นกัน สมัยนี้พวกเราบกพร่องตรงการตัดสินใจให้เด็ดขาด เพราะว่าส่วนใหญ่แล้วเกรงใจคนรัก เกรงใจครอบครัว ทำให้ห่วงหน้าพะวงหลัง ไม่กล้าตัดสินใจ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-04-2022 เมื่อ 02:30
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา