ตอนนี้ฌาปนสถานหรือเมรุของวัดท่าขนุนเสร็จเรียบร้อยแล้ว เรือนไทยประยุกต์ ถ้าเสร็จก็จะซ่อมตึกเตชะไพบูลย์กับตึกประจวบดี ๒ ตึก หลังจากนั้นงานข้างในก็คงไม่มี อาตมาจะไปทำทางขึ้นรอยพระพุทธบาท
ตอนนี้สภาพร่างกายของอาตมา แข็งแรงเพียงพอที่จะรบกับญาติโยมเป็นวัน ๆ ถ้ามีเรี่ยวมีแรงแบบนั้น ก็จะไปขึ้นรอยพระพุทธบาทเสียที เพราะว่ารอยพระพุทธบาทนั้น ตั้งแต่สมัยอาตมายังอยู่วัดท่าซุงขึ้นไปกราบ ต้องหาทางตะเกียกตะกายป่ายปีนขึ้นไป จนกระทั่งเห็นว่าเป็นรอยพระพุทธบาทจริง ๆ แต่ที่ทึ่งกว่านั้นก็คือมีรอยเท้าเท่ากับรอยคนธรรมดาทั่วไป เหยียบอยู่บนหิน ๑ รอย ลักษณะของการเหยียบ ลึกและชัดเจนมาก ลึกเป็นนิ้วเลย ลึกและชัดเจน สงสัยว่าจะเป็นหลวงปู่สาย ถึงเวลาก็สกัดรอยเท้าของอาตมาให้ลึกพอ ๆ กัน เรียกวัดรอยครูบาอาจารย์
งานใหญ่อยู่บนหัวอาตมา คือ พิพิธภัณฑ์ ๑๐๐ ปี หลวงพ่อฤๅษีวัดท่าซุง จะแบ่งเป็นห้อง ๆ ห้องแรกเป็นห้องความรู้ทางพระพุทธศาสนา ห้องที่สองเป็นห้อง หลวงปู่สาย อดีตเจ้าอาวาสที่นี่ ห้องที่สามจะเป็นวัตถุมงคลประเภทเครื่องรางของขลัง ซึ่งอาตมาค่อนข้างมั่นในว่า ตัวเองสะสมไว้ไม่น้อยหน้าใครในโลก
แล้วก็อยากจะเอาพวกสินค้าโอท็อป ฝีมือระดับประเทศ อวดเขาได้ไม่อายใครมาให้เด็ก ๆ แถวนี้ได้ดูบ้าง โดยเฉพาะสินค้าที่เป็นเครื่องเงิน เครื่องทอง อาตมาทยอยซื้อเก็บ ๆ เอาไว้หลายล้านเต็มทีแล้ว บางอย่างเช่น เข็มขัด ถักลายด้วยเส้นลวดทองคำ เส้นหนึ่งก็เป็นล้านแล้ว
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 10-04-2017 เมื่อ 19:13
|