ดูแบบคำตอบเดียว
  #16  
เก่า 16-09-2010, 00:46
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,803 ครั้ง ใน 34,093 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ถ้าใครไม่เคยเจอน้ำป่า จะไม่รู้ว่าน่ากลัวขนาดไหน มาทีอย่างกับภูเขาถล่ม

น้ำป่านั้นเกิดจากท่อนไม้บ้าง ใบไม้บ้าง มาขวางลำธาร พอสิ่งกีดขวางสะสมมากเข้า ๆ ก็เท่ากับเป็นเขื่อนกั้นน้ำ พอเวลาน้ำสูงขึ้น แรงดันก็มากขึ้น พอกั้นไม่อยู่พังโครมลงไปก็เป็นน้ำป่า

เคยธุดงค์อยู่รอบหนึ่ง เจอน้ำป่าด้วย เจอพายุลูกเห็บด้วย ช่วงนั้นเดินตัดทุ่งใหญ่ขึ้นไปทางอุ้มผาง พอตอนเย็นก็ปักกลด ดินฟ้ามืด ๆ พิกล สักพักฝนก็เกรียวกราวมา ประเภทฝนเม็ดโต ๆ บริเวณที่อาตมาอยู่ฝนก็ตก อาตมาก็แปลกใจว่าตาลายหรือเปล่า เพราะเม็ดฝนเด้งได้ กระทบพื้นแล้วกระเด้งกระดอนไปทั่ว

ความจริงนั่นเป็นลูกเห็บ พอตกกระทบพื้นแล้วก็เด้ง แรก ๆ ขนาดเท่านิ้วก้อย สักพักเม็ดเท่านิ้วชี้ สักพักเม็ดเท่านิ้วโป้ง ตกอยู่ประมาณครึ่งชั่วโมง ต้นไม้ใบหญ้าปรุหมด จากป่าที่รกกลายเป็นโล่งไปเลย

หลังจากนั้นฝนจริง ๆ ก็มา กระหน่ำอยู่ประมาณสองชั่วโมง โชคดีตอนนั้นมีเพิงหินอยู่หน่อยหนึ่ง พอที่จะมุดหลบเข้าไปได้ พอฝนหยุดตั้งใจว่าเดี๋ยวจะหาฟืนมาก่อไฟ จะได้ตากผ้าที่เปียก

ยังไม่ทันออกหาฟืนเลย เสียงน้ำป่ามาเหมือนกับภูเขาถล่ม ม้วนกลิ้งตูมลงมา ถ้าหนีก็หนีไม่ทัน โชคดีตรงที่ว่า จุดที่ไปหลบฝนอยู่นั้นเป็นเนินเขา ไม่ได้ไปขวางทางน้ำ เลยปลอดภัย

บริเวณด้านข้างเป็นลำห้วยกว้างมาก เป็นห้วยแห้งที่ไม่มีน้ำ เนื่องจากเป็นหน้าแล้ง เพราะฉะนั้น..อย่าไปไว้ใจว่าในป่าหน้าแล้งแล้วจะไม่มีฝน ไปป่าเมื่อไรหน้าไหนก็เจอฝน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 16-09-2010 เมื่อ 09:10
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 166 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา