หลังจากนั้นแล้วความเสียหายก็จะกว้างออกไป อย่างเช่นว่า อาจารย์เล็กฝึกลูกศิษย์มาได้แย่ขนาดนี้เชียวหรือ ? ไม่มีดีกว่านี้แล้วใช่ไหม ? ก็บรรลัยเราอีก..!
เรื่องทั้งหลายเหล่านี้พระพุทธเจ้าจึงได้สรุปว่า ศาสนาพุทธจะโดนทำลายจากคนในเท่านั้น ไม่ใช่จากคนนอก ก็คือจาก ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา
อย่าว่าแต่การเรียนรู้และศึกษาธรรมให้แตกฉานเลย แม้กระทั่งศีลและอภิสมาจารมีอะไรบ้าง ก็ยังรู้ไม่ครบ ก็เลยไม่แน่ใจเหมือนกันว่า ถ้าเกิดญาติโยมเขามีงานอะไรขึ้นมา จะไปปฏิบัติให้ถูกต้องตามศาสนพิธีได้หรือเปล่า ?
เราพูดมากก็ไม่ได้ เพราะว่าถ้าพูดมากไปก็เหมือนไปลดความน่าเชื่อถือของเขา ขณะเดียวกันคนที่ไม่เข้าใจก็จะมองว่าเราอิจฉาลูกศิษย์ ก็เลยไม่อยากให้ไปได้ดี ทั้ง ๆ ที่เขาผิดพระวินัยมาตั้งแต่ต้น
การไปอยู่ลักษณะนั้นเท่ากับฝืนคำของพระพุทธเจ้า เท่ากับโดนอาบัติศีลขาดอยู่ทุกวัน จึงเป็นเรื่องที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก พอโยมเขาถามว่ามีคำแนะนำอะไรบ้าง ถึงได้บอกไปสั้น ๆ ว่า "ไม่มี"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-06-2010 เมื่อ 11:54
|