ลำดับต่อไป คือ ความเคารพในพระรัตนตรัยของเราเต็มเปี่ยมอยู่หรือไม่ ? เราได้ล่วงเกินพระรัตนตรัยด้วยกาย ด้วยวาจา หรือด้วยใจบ้างหรือไม่ ? ถ้าหากว่าสติของเราหยาบ บางทีก็ไม่รู้ตัวว่าสิ่งที่กระทำลงไปนั้น เป็นการปรามาสพระรัตนตรัย ซึ่งเป็นโทษใหญ่ถึงขนาดปิดมรรคผลเลยทีเดียว
เนื่องเพราะกติกาของการเป็นพระอริยเจ้าข้อแรกเลยก็คือ ต้องเคารพพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์จากใจจริง ไม่ล่วงเกินด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ ทั้งต่อหน้าและลับหลัง ถ้าหากว่าเรามีข้อผิดพลาด หรือถึงไม่มีแต่คาดว่าจะมี ก็ให้รีบกราบขอขมาพระรัตนตรัยเสีย อย่าปล่อยให้ข้ามคืนข้ามวัน เพราะถ้าเรามีอันเป็นไป กรรมตรงนี้จะมาตัดรอน ทำให้เราเข้าถึงความเป็นพระอริยเจ้าไม่ได้
ข้อต่อไป ก็คือ มาทบทวนว่าเราได้ระลึกถึงความตายเป็นปกติหรือไม่ ? ความตายมีกับมนุษย์และสัตว์ทุกรูปทุกนาม เกิดมาเท่าไรก็ตายหมดเท่านั้น แต่การที่เราเห็นคนและสัตว์เกิดมากกว่าตาย เพราะไม่ว่าจะคนก็ดี สัตว์ก็ดี เมื่อเกิดมาแล้วยังต้องดำรงชีวิตอยู่หลายปี
การเกิดของคนและสัตว์ใช้ระยะเวลาไม่นาน อย่างเก่งก็ ๙ เดือน ๑๐ เดือน หรือสัตว์ใหญ่ ๆ อย่างช้างก็ปีครึ่ง ๒ ปี เป็นต้น แต่ว่าเกิดมาก็เปลี่ยนแปลงแปรปรวนไปในท่ามกลาง และสลายไปในที่สุด ก็คือเข้าถึงความตายทั้งหมด แม้ว่าจะเกิดเร็วตายช้า จนดูเหมือนกับว่าเกิดมากกว่าตาย แต่ความจริงแล้ว ทุกชีวิตก้าวไปสู่ความตายเป็นปกติ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า สัตว์โลกทั้งหลาย เกิดมาเท่าไร ตายหมดเท่านั้น ดังนั้น...เราจึงไม่ควรที่จะประมาท ให้เร่งรัดการปฏิบัติธรรมของเราให้มากเข้าไว้
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-01-2016 เมื่อ 17:40
|