๒๔. อาถรรพ์กว๊านพะเยา
ดินแดนอาถรรพ์นั้นมีอยู่แทบทุกมุมโลก ในขณะที่วิทยาการของมนุษย์ก้าวหน้าถึงขนาดเดินทางไปดวงจันทร์ ปล่อยยานอวกาศไปสำรวจดวงดาวต่าง ๆ แต่มนุษย์ก็ไม่อาจไขปริศนาดำมืดตามมุมต่าง ๆ ของโลก ด้วยวิทยาการสมัยใหม่ได้สำเร็จ...
ป่าดงดิบแห่งลุ่มน้ำอเมซอน ยังคงแฝงเร้นด้วยตำนานลึกลับ ไม่ว่าจะเป็นงูยักษ์มหึมาที่เรียกว่า
อะนาคอนดา หรือ
เมืองแม่หม้าย ที่มีแต่หญิงสาวล้วน ๆ ทำการรบอย่างห้าวหาญไม่แพ้ผู้ชาย เป็นเพียงบันทึกและคำบอกเล่าที่ไร้หลักฐานยืนยัน...
เทือกเขาหิมาลัยประกอบด้วยยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก สูงสลับซับซ้อน ปกคลุมด้วยหิมะชั่วนาตาปี ซ่อนเร้นเรื่องราวของ
มนุษย์หิมะ ฤๅษีผู้ทรงฤทธิ์อภิญญา และภูติเทพ สารพัดตามความเชื่อของชาวพื้นเมือง ก็ยังเป็นดินแดนลึกลับตลอดกาล...
ป่าดงดิบแห่งดินแดนกาฬทวีป มีเรื่องของ
มนุษย์ตัวจิ๋วเผ่าปิ๊กมี่ ที่ตัวนิดเดียวแต่ชอบกินช้างเป็นชีวิตจิตใจ สัตว์ป่าจำนวนมหาศาล มนุษย์เผ่าแปลก ๆ สัตว์ป่าพันธุ์ประหลาด ๆ เล่าขานกันต่อ ๆ มา ท้าทายนักพิสูจน์เป็นอย่างยิ่ง...
ป่าดงดิบเขตแดนไทย-พม่า มีเมืองหลงสำรวจ นักล่าหัวมนุษย์เผ่าละว้า เสือโคร่งดำขนาดมหึมา จระเข้มหายักษ์ที่เรียกว่าตะโขง พระผู้ทรงอภิญญาจำนวนมาก ยังคงพ้นจากสายตาของโลกภายนอกตลอดมา...
เรื่องราวของ
เมืองลับแล ดินแดนชาวบังบดผู้เป็นมนุษย์กึ่งเทพ…
แก่งหลี่ผี มหาสีทันดร ที่กลืนทุกชีวิตที่ล่วงล้ำเข้าไป…
ดงพญาไฟ ป่าดงดิบมหากาฬที่น้อยคนจะรอดมาได้… เมืองพญานาคใต้ลำน้ำโขง… เป็นแค่เรื่องเล่าปากต่อปากสืบ ๆ กันมา...
มีเรื่องอยู่ ๔ ประการ ที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ว่า อย่าไปค้นหาสาเหตุเลย จะเสียเวลาทำความดีไปเปล่า ๆ คือ...
๑.
พุทธวิสัย ความสามารถของพระพุทธเจ้า อย่างน้อย ๔ อสงไขย ๑ แสนมหากัปที่บำเพ็ญบารมีมา สิ่งที่พระองค์ทำได้ย่อมเกินกว่าคนทั่วไปจะคาดคิดถึง...
๒.
ฌานวิสัย ความสามารถของผู้ทรงอภิญญาสมาบัติ การเหาะเหินเดินอากาศ มุดน้ำ ดำดิน ท่องนรกเที่ยวสวรรค์ ถ้าเราทำไม่ได้ คิดไปก็หัวหงอกเปล่า ๆ ...
๓.
กรรมวิบาก ผลแห่งกรรมที่ตนทำมา นำพาให้ร่ำรวย ยากจน มีอำนาจ ด้อยวาสนา สวยงาม อัปลักษณ์ คิดให้ตายก็คิดไม่ออกว่า เหตุใดกรรมจึงปรุงแต่งได้มหัศจรรย์ขนาดนั้น...
๔.
โลกจิณไตย ความพิสดารของสิ่งต่าง ๆ ในโลก ถ้าดั้นด้นไปค้นหาด้วยเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ เกิดใหม่อีกหลายชาติก็ไม่แน่ว่าจะหาพบ...
หลวงพ่อเล่าว่า สมัยยังเป็นเด็กหนุ่มอยู่ ตอนกลางคืนชอบไปเรือนท่านย่า ฟังท่านเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ให้ฟัง วันหนึ่งระหว่างเดินทาง ไปพบหมู่บ้านประหลาดหมู่หนึ่งมาคั่นกลางอยู่ พอเดินไปถึงเรือนท่านย่า จึงถามว่าบ้านใคร...? ท่านย่ายืนยันว่า ไม่มีบ้านใครอยู่ระหว่างทางอย่างเด็ดขาด พอหลวงพ่อเดินทางกลับ ก็ไม่พบหมู่บ้านนั้นเสียแล้ว ไม่ทราบว่าหายไปทางไหน หลวงพ่อบอกว่า คงเป็นเมืองลับแลที่เขาเล่าลือกัน เสียดายว่าตอนนั้นไม่ได้คิดสงสัย ไม่อย่างนั้นจะลองเข้าไปในหมู่บ้านนั้นดู...!
ลูกศิษย์ของ
หลวงปู่ครูบาไชยวงศ์ วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม พบเห็นชาวเมืองลับแลออกมาทำบุญกับหลวงปู่ทุกวันพระใหญ่ มีที่สังเกตคือ พวกเขาจะมี
กล้วยน้ำว้ามาทำบุญ กล้วยของเขา
ทุกเครือจะมี ๑๓ หวี ทุกหวีจะมี ๑๖ ผล... เคยมีผู้ติดตามไปหลายหน เพื่อจะได้ทราบว่าพวกเขามาจากไหน แต่พอเดินตามไปได้ไม่นาน ชาวลับแลเหล่านั้นก็หายตัวไปเฉย ๆ ไม่ทราบว่าหายไปได้อย่างไร ทั้ง ๆ ที่จ้องดูอยู่ทุกอิริยาบถ ชนิดไม่ยอมให้คลาดสายตา แต่ก็คลาดกันไปทุกที...!
อาตมาไม่เคยพบดินแดนลับแลขนาดนี้หรอก แต่ที่พบมาก็นับว่าประหลาดอย่างยิ่ง ตอนนั้นอาตมาเดินทางไปทอดกฐินที่เชียงใหม่ คณะที่ไปด้วยกันนั้นส่วนใหญ่จะเมากันเละ ทำความอึดอัดใจแก่อาตมาเป็นอย่างยิ่ง...
นับว่ายังโชคดีที่ได้พบกับ
คุณกัลยา (วิริยะ) สินวงศ์ ซึ่งมาคนเดียว เป็นพวกขวางโลกพอกันคือ เขาผิดศีลกันเท่าไรเราก็ไม่ยอมผิดไปด้วย เลยกลายเป็นเพื่อนสนิทกัน เมื่อไปรถเสียแทบล้มประดาตายที่เวียงป่าเป้า พวกเราก็เดินทางกลับกรุงเทพฯ...
แวะเที่ยว
กว๊านพะเยากันก่อน ปล่อยเขาไปเมากันต่อ เราไปเดินหาที่ถ่ายรูปกัน ทั้งที่ริมกว๊านและภายในกว๊าน พอถ่ายจนเป็นที่พอใจก็เดินทางกลับ ถึงกรุงเทพฯ แล้วเอาฟิล์มไปล้าง ภาพที่ออกมาทำเอางงเป็นไก่ตาแตก...!
ไม่ว่าเป็นภาพการถวายกฐิน งานเลี้ยงขันโตก สถานที่เที่ยวต่าง ๆ ตลอดถึงริมกว๊าน ล้วนแต่ชัดเจนแจ่มใส แต่ทุกภาพที่ถ่ายภายในกว๊าน
ขาวโล่งไปเฉย ๆ ชนิดหาสาเหตุไม่ได้ อาตมากับกัลยาได้แต่มองหน้ากัน มันเป็นเพราะอะไรกันแน่...?
ภายในกว๊านมีอาถรรพ์อะไร...? สิ่งลี้ลับทักทายหรือไฉน..? ใครบอกได้บ้าง...?
๒ มีนาคม ๒๕๓๓
พระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
บันทึกเพิ่มเติม มาภายหลังเมื่อคุ้นเคยกับพวกลับแลแล้ว จึงทราบว่าพวกเขาก็เป็นคนอย่างเรานี่เอง เพียงแต่ทำความดีไว้มากกว่า ความดีนั้นดีเกินกว่าจะมาอยู่ร่วมกับเรา แต่ไม่เพียงพอที่จะไปเป็นเทวดา จึงต้องเกิดเป็นชาวลับแล
พวกเขาจะมีอยู่ในทุกมุมโลก เป็นเขตเฉพาะต่างหากออกไป ถ้าไม่ใช่พวกของเขา หรือเป็นบุคคลที่เคยมีกรรมร่วมกับพวกเขาแล้ว จะไม่สามารถเข้าไปในเขตของเขาได้ อาตมาเองได้รับนิมนต์จากหัวหน้าชาวลับแล ให้เข้าไปในเขตของเขา แต่ยังไม่รับปาก
เพราะเวลาของเขา ๑ วัน เท่ากับ ๑ ปีของเรา...!
๘ กรกฎาคม ๒๕๔๙
พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ