ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 23-02-2013, 19:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,614
ได้ให้อนุโมทนา: 151,817
ได้รับอนุโมทนา 4,413,205 ครั้ง ใน 34,204 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วิธีการรับมือกับความเจ็บไข้ได้ป่วยในขั้นกลางนั้น ในเรื่องของสมาธิจะต้องให้ถึงระดับของอรูปฌาน เมื่อมีอรูปฌานที่คล่องตัว โดยเฉพาะในเรื่องของเนวสัญญานาสัญญายตนฌานแล้ว ต่อให้อาการเจ็บไข้ได้ป่วยเกิดขึ้น เราก็ทำไม่รู้ไม่ชี้ได้

เพราะคำว่า "เนวสัญญานาสัญญายตนะ" ก็คืออายตนะทั้งหลายมีสัญญาคือความรู้สึก ความจำได้หมายรู้อยู่ ก็เหมือนกับไม่มี สภาพจิตจะก้าวข้ามความเจ็บไข้ได้ป่วยนั้นไป ไม่รับรู้อาการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับร่างกาย เราก็จะพ้นจากเวทนานั้นชั่วคราว จนกว่าจะคลายสมาธิออกมา นี่เป็นการรับมือกับความเจ็บไข้ได้ป่วยในระดับที่สอง

ในระดับสุดท้ายนั้น ให้เราพิจารณาเห็นว่า สภาพความเจ็บไข้ได้ป่วยนั้นเป็นธรรมดาที่เกิดขึ้นกับร่างกาย สิ่งทั้งหลายเหล่านี้เกิดขึ้นในเบื้องต้น เปลี่ยนแปลงไปในท่ามกลาง สลายไปในที่สุด เวทนาจากความเจ็บป่วยก็ไม่สามารถที่จะตั้งอยู่ตลอดเวลาได้ โดยเฉพาะเวทนานั้นเกิดขึ้นกับสภาพร่างกาย ไม่ได้เกิดขึ้นกับสภาพจิตใจ เมื่อเป็นดังนั้น เราก็สามารถที่จะก้าวล่วงจากสภาพร่างกายที่เจ็บไข้ได้ป่วยอยู่ เข้าไปสู่สภาวะธรรม ซึ่งมีจิตรู้เด่นอยู่เฉพาะดวงเดียวเท่านั้น ไม่ยุ่งเกี่ยวกับอาการของร่างกาย เหมือนกับเราข้ามสะพานใหญ่ไปสู่อีกฝั่งหนึ่ง แล้วทำลายสะพานนั้นเสีย ฝั่งตรงข้ามก็จะเป็นคนละส่วนกับเรา ไม่ได้ยุ่งเกี่ยว ไม่ได้เกี่ยวข้องกัน

ถ้าเป็นดังนี้ก็ถือว่าท่านทั้งหลาย สามารถเอาความเจ็บไข้ได้ป่วยนั้นเป็นประโยชน์ในการปฏิบัติของตนเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นการรับมือกับความเจ็บป่วยขั้นต้นก็ดี ขั้นกลางก็ดี ขั้นปลายก็ดี เราทุกคนจำเป็นจะต้องซักซ้อมเอาไว้เสมอ ๆ เพื่อที่ถึงเวลา เมื่อการเวทนากำเริบกล้าขึ้นมา เราจะได้ไม่ขาดสติ ไม่ไปโอดโอยอยู่กับความเจ็บไข้ได้ป่วยนั้น ไม่เช่นนั้นแล้ว เมื่อเราขาดสติไปคร่ำครวญอยู่กับอาการเวทนาที่เกิดขึ้น สภาพจิตของเราที่เศร้าหมอง ถ้าตายลงไปตอนนั้น เราจะมีทุคติเป็นที่ไป

แต่ถ้าซักซ้อมจนสภาพจิตของเรามีความคล่องตัว นึกจะทรงรูปฌานเมื่อไรก็ทรงได้ นึกจะทรงอรูปฌานเมื่อไรก็ทรงได้ ถ้าเป็นดังนี้ก็เป็นการประกันความเสี่ยงในเบื้องต้น ว่าอย่างน้อยถ้าอาการเจ็บไข้ได้ป่วยกำเริบกล้าจนถึงขนาดสังขารร่างกายรับไม่ไหว เราก็ยังมีสุคติเป็นที่ไป
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-02-2013 เมื่อ 02:43
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 77 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา