พระปัจเจกพุทธเจ้า (๒)
สืบเนื่องจากการหล่อพระปัจเจกพุทธเจ้าครั้งแรก มีบางท่านที่รับพระไปแล้ว บ่นว่า
“องค์เล็กไป..!” อาตมาจึงคิดใหม่แต่ทำเก่า เอาให้ใหญ่กว่าเดิม
สอบถามแล้วว่า ขนาดที่ถูกใจคนส่วนมากคือ
ใหญ่กว่าเดิมประมาณ ๓ เท่า อาตมาจึงสั่งช่างจ๋าให้แกะแบบใหม่ จากของเดิมหน้าตัก ๑ ซ.ม.
ขยายเป็น ๓ ซ.ม.
จะด้วย
ธรรมะจัดสรรหรือ
เป็นพระประสงค์ของพระองค์ท่านก็ไม่ทราบ เมื่ออาตมาเห็นแบบแล้วแทบเป็นลม..!
พอขยายหน้าตักเป็น ๓ ซ.ม. ขนาดของท่านใ
หญ่ขึ้นเป็น ๑๐ เท่า..! อาตมามี
ทองคำ ๕๒ บาท กับ
เม็ดเงิน ๑๑ กิโลกรัม จะหล่อได้เท่าไรกันหนอ ?
ช่างจ๋าแนะนำว่า “ถ้าคว้านแบบเข้าไปให้มากหน่อย ก็จะใช้ทองน้อยลงครับ” “ประมาณองค์ละเท่าไรล่ะ..?” “น่าจะ
ประมาณองค์ละ ๑๒๒ กรัมครับ..!”
ไหน ๆ ก็มาถึงขั้นนี้แล้ว อาตมาสั่งเดินหน้าเต็มสูบ
ช่างจ๋าเองทั้งที่งานท่วมหัว ยังอุตส่าห์วางมือจาก
“องค์พ่อจตุคามรามเทพ” ของเขา เจียดเวลามาทำให้
วันอาทิตย์ที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๐ พร้อมกันที่
โรงหล่อช่างจ๋า อาตมาเอา
ชนวนเก่าของการหล่อครั้งก่อนมาลงเบ้าหลอมด้วย
ได้
พระปัจเจกพุทธเจ้าเนื้อเงิน ๑๙๐ องค์ เนื้อทองคำ ๘ องค์ งามสุด ๆ ไปเลย..! ใครเห็นก็อุทานด้วยความชื่นชม ต้องการเป็นเจ้าของทั้งนั้น...
จ่าย
ค่าแบบ ๑๐,๐๐๐ บาท ค่าหล่อ ๒๑,๐๐๐ บาท ช่างจ๋าที่คำนวณน้ำหนักผิด
ยังเหลือแบบอยู่อีก ๗๐ องค์ ถามว่าจะเอาอย่างไรดี ?
ในเมื่อธรรมะจัดสรรแบบนี้ อาตมาจึงให้เก็บไว้ โดยยินดีจ่ายค่าแบบให้ ถ้าหาเม็ดเงินได้เมื่อไร จะได้มาหล่อเพิ่มเติมทีหลัง
พระปัจเจกพุทธเจ้าทองคำนั้น อาตมาให้
ทิดจิตร (จิตติพัฒน์ เอี่ยมโอด) นำไปลอง
พ่นทราย ๔ องค์ ปรากฏว่าจากของเดิมที่สวยอยู่แล้ว กลับสวยงามยิ่งขึ้นไปอีก
พระปัจเจกพุทธเจ้ารุ่นนี้ จะนำเข้า
พิธีเทวาภิเษก (๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๐) ที่
วัดเกาะแก้ว จ.สุพรรณบุรี และนำเข้า
พิธีเป่ายันต์เกราะเพชร (๑๘ สิงหาคม ๒๕๕๐) ที่
วัดท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี อีกวาระหนึ่ง
พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
วันอาทิตย์ที่ ๑ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๕๐