"ส่วนใหญ่แล้วข้าราชการของเราส่วนหนึ่งจะมีนิสัยอย่างนี้ คือเลี่ยงงาน ที่เขาสรุปกันว่าเช้าชามเย็นชาม เอาตัวรอดไปวัน ๆ ถ้าหากเป็นวัดท่าขนุนคงโดนไล่ออกหมดแล้ว บางครั้งเจ้านายก็ไม่อยากจะใช้พระเดช เพราะรู้ว่าคนจะเกลียดขี้หน้ามากกว่า แต่ถ้าใช้พระคุณมากเกินไป ก็อย่างที่หลวงปู่พระพุทธพจนวราภรณ์ วัดเจดีย์หลวงท่านบอก ถ้าเมตตาเกินประมาณก็มีแต่คนพาลทั้งเมือง
เหมือนกับเณรเป็นร้อยมาอยู่ด้วยกัน แล้วเป็นวัยรุ่นทั้งนั้น ถ้าไม่ดุเอาไว้นี่เอาไม่อยู่หรอก อาจารย์ปกครองของโรงเรียนเข้ามาถาม “เป็นอย่างไรครับพระอาจารย์ ไหวไหมครับ ?” บอกว่าเอาอยู่ ไม่ต้องห่วง ตีกระจาย ถ้าหากว่าไม่มีตัวอย่าง เขาก็ไม่กลัวกัน
วันแรกให้เจริญกรรมฐานตี ๔ ปลุกตี ๐๓.๑๕ น. ปรากฏว่าเตรียมตัวมากันทัน ก็เลยบอกถ้าอย่างนั้นวันต่อไปจะปลุกตี ๓ ครึ่ง ให้เวลาพวกคุณนอนอีก ๑๕ นาที ปรากฏว่าตี ๓ ครึ่งมาไม่ทัน เพราะเห็นว่าวันแรกไม่มีอะไร ก็เลยบอกว่าใครมาไม่ทันเดี๋ยวจะได้รางวัล เขาก็ยังคิดว่าพูดเล่น ท้ายสุด ๓ คนสุดท้ายโดนฟาดตูดไป รุ่งขึ้นมากันตรงเวลาเป๊ะ ก็ยังบอกเขาว่า "คนเราทำไมต้องเป็นวัวเป็นควายให้ลงไม้ลงมือกันด้วย ? ก็ในเมื่อทำดีทำได้ คุณทำเสียตั้งแต่แรกก็หมดเรื่องไปแล้ว"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-12-2015 เมื่อ 03:08
|