"บ้านเราอุดมสมบูรณ์เกินไป ไม่เคยอดอยาก ไม่เคยไปดูค่ายผู้อพยพ ไม่เคยไปดูค่ายผู้ประสบภัยพิบัติ ไม่รู้หรอกว่าเขาอยู่กันลำบากแค่ไหน แต่ว่าที่โฮปแค้มป์นี่ระบบการจัดการเขาดี ขนาดเต็นท์เล็ก ๆ ยัดเข้าไป ๒๐ กว่าคน แต่สะอาดมากเลย ไม่มีกลิ่นอะไรเลย รอบบริเวณระบบระบายน้ำดี ห้องน้ำห้องส้วมดี มีเต็นท์อำนวยการ มีเต็นท์รักษาพยาบาล มีเต็นท์ที่เหมือนกับศาลาวัด มีพระตั้งอยู่ มีรูปพระโพธิสัตว์ เป็นที่สวดมนต์และนั่งกรรมฐาน เขาจัดการได้ดีมาก
เจ้าของโฮปแค้มป์ก็คือเจ้าของโรงแรมทวาริกะ ซึ่งเป็นโรงแรม ๕ ดาวแห่งเดียวในเนปาล คนรวยที่มีกำลังใจในการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์นั้นหายาก หมู่บ้านนั้นโดนแผ่นดินไหวพังหมดทั้งหมู่บ้าน ไม่เหลือดีเลย ตอนแรกแกก็ตั้งแค้มป์ขึ้นมา กะว่ารับได้ประมาณ ๑๐๐ คน ปรากฏว่าไปจริง ๆ ๓๐๐ กว่าเกือบ ๔๐๐ คน ก็ต้องเอามาทั้งหมด ระบบการจัดการเขาดีตรงที่ว่า เด็ก ๆ ได้รับการศึกษา ผู้ใหญ่ได้รับการสอนว่าจะต้องไปสร้างไปเสริมอย่างไร เรือนชานบ้านช่องตัวเองถึงจะกลับคืนดีมา
โดยเฉพาะเด็ก ๆ เรียนภาษาอังกฤษได้ดีมาก ไม่มีสำเนียงแขกเลย แสดงว่าครูที่อาสาเป็นต่างชาติเข้าไปสอน ทำให้เด็กต้องตามสำเนียงครู เด็ก ๆ ๓ ขวบ ๕ ขวบ ๗-๘ ขวบพูดภาษาอังกฤษระดับสื่อสารได้ พวกเราต้องอยู่ในสถานการณ์อย่างนั้นถึงจะกระตือรือร้นดิ้นรน ในช่วงนั้นสติปัญญาความสามารถทุกอย่างต้องทุ่มเทออกมาจนหมด ของเรามั่นใจเลยว่าใช้สมรรถภาพของร่างกายและสมองน่าจะใช้กันไม่ถึง ๕๐ เปอร์เซ็นต์ เพราะเหตุถึงแก่ชีวิตยังไม่ปรากฏ ในเมื่อเหตุถึงแก่ชีวิตยังไม่ปรากฏ ก็ไม่คิดที่จะดิ้นรนให้มากกว่านี้ ต้องบอกว่าเป็นที่น่าเสียดายมาก"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-12-2015 เมื่อ 16:25
|