พระอาจารย์เล่าว่า "ตอนที่น้ำท่วมใหญ่ คนนั้นก็จะเอากระสอบทรายมา คนนี้ก็จะเอาเรือมาให้ใช้ที่บ้านวิริยบารมี อาตมาบอกว่าไม่ต้อง ตรงนี้ไม่ท่วมแน่นอน..มั่นใจ เขาก็ยังกลัวกันอีก ท้ายสุดน้ำขึ้น ๑ ศอก คนก็วิตกจริตกันยกใหญ่ กทม.ก็เริ่มมาทำสะพานให้เดิน อาตมาก็ยังยืนยันว่าไม่ต้อง
จำได้ว่าสมัยก่อนที่วัดท่าซุง ถ้ากฐินยังไม่เสร็จน้ำจะไม่ท่วมเด็ดขาด ปี ๒๕๒๖ น้ำหลากข้ามถนน แปลว่าสูงกว่าพื้นอีกฝั่งเป็นเมตร ๆ แต่น้ำไม่เข้าวัด เห็นชัด ๆ เลย คราวนี้พอกฐินเสร็จอาตมานอนแผ่หมดสภาพ เพราะทำงานมาสองวันสองคืนแล้ว หลวงพ่อท่านมาเคาะประตู "เฮ้ย ๆ รีบเก็บเสื่อ เดี๋ยวไม่ทัน" ม้วนเสื่อเพิ่งแบกขึ้นบ่า น้ำท่วมตาตุ่มแล้ว เพราะว่าเทวดาท่านรับปากไว้ว่าให้แค่นั้น เกือบไม่ทันอย่างที่ท่านว่าจริง ๆ
พอมารุ่นหลัง เคยเตือนสองครั้งแล้วท่านคงไม่ได้ฟัง บอกท่านว่าเป็นเจ้าอาวาสใหม่ ต้องบวงสรวงตกลงกันใหม่ ถ้าไม่บวงสรวงตกลงกันใหม่ เขายกเลิกข้อตกลงไป เพราะเขาถือว่าตกลงกับหลวงพ่อองค์เดิม พอเขาไม่สงเคราะห์ก็เฮงเลย ยังดีที่ว่าสมัยนี้เบิกงบหลวงได้ ถ้าเป็นอาตมา..น้ำท่วมจะได้แค่สองปีเท่านั้น ปีที่สามเจอเขื่อนแน่นอน"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 11-03-2013 เมื่อ 19:50
|