พระมหาจุมพล สีหพโล มากราบนมัสการพระอาจารย์ "เรื่องของการสอบเปรียญธรรมได้ ๙ ประโยค ต้องบอกว่าเป็นบุญจริง ๆ ถ้าหากว่าไม่ได้สร้างบุญมาดีนี่โอกาสจะได้ถึงยากมาก แล้วโดยเฉพาะประโยค ๙ นาคหลวงนี่หายากสุด ๆ แต่ละปีจะมีสามเณรสักกี่คนฝ่าฟันหลุดมาได้ ?
มหาจุมพลได้ฉายาอะไรครับ ? (สีหพโลครับ) สีหพโล = มีกำลังดั่งราชสีห์ ไปนึกถึงคาถา“สีหะนาทัง นะทันเตเต ปริสาสุ วิสาระทา” พระพุทธเจ้าแสดงธรรมอยู่ท่ามกลางพุทธบริษัท ด้วยความแกล้วกล้าประหนึ่งพญาราชสีห์บันลือสีหนาท พวกนักเทศน์มักใช้คาถาบทนี้ ป้องกันตัวเองขึ้นไปเทศน์แล้วประหม่า
มหาจุมพลท่านเพิ่งบวชพระ เป็นนาคหลวง อยู่วัดสระเกศ สอบได้ประโยค ๙ นอกจากจะเป็นเกียรติเป็นศรีแก่สำนักเรียน เป็นเกียรติแก่ตนเองและวงศ์ตระกูลแล้ว ต้องบอกว่าเป็นเกียรติแก่ศาสนาด้วย เสียดายว่าบ้านเราเรียนแค่นี้ ถ้ามีโอกาสเรียนบาลีชั้นสูงต่อไปจะแตกฉานกว่านี้อีกมากเลย ท่านมหาจุมพลลองไปหาพวกตำรามูลกัจจายน์หรือปทรูปสิทธิมาดู จะมีบรรดาสูตรต่าง ๆ ของไวยากรณ์บาลีบอกไว้หมดเลย ต่อไปเราจะรู้ว่าทำไมต้อง อะ บวกกับ สิ ต้องเป็น โอ เขาจะมีบอกหมด
เขาจะไล่มาทีละสูตร ๆ มี ๑๒๐ กว่าสูตร ไม่อย่างนั้นเราเรียนบาลีมาประโยคแรกถึงประโยค ๙ เขาให้เราเชื่ออย่างเดียว ต่อให้เราสัมพันธ์ได้บางทีเราก็ไม่รู้ว่าตัวนี้ทำไมถึงเป็นอย่างนี้ ทำไมถึงต้องแปลง ทำไมถึงต้องลงอักษรใหม่ ทำไมถึงต้องทำให้ต่างไปจากเดิม เขาจะเริ่มจาก อัตโถ อักขระสัญญาโต = เนื้อความอันบุคคลรู้ได้ด้วยตัวอักษร แล้วเป็นการกล่าวถึงอักขระ ฐาน กรณ์ ต่าง ๆ จากนั้นขึ้นสูตรแรก ปุพพะมะโธฐิตะมัสสะรัง สะเรนะ วิโยชะเย บอกชัดเลยว่า พึงแยกสระหน้าออกจากสระหลังก่อน จะได้รู้ว่าสนธิกันเข้าไปแล้วอะไรเป็นอะไร แล้วก็ไล่ไปทีละสูตร"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-08-2014 เมื่อ 02:31
|