ดูแบบคำตอบเดียว
  #1  
เก่า 26-06-2019, 19:35
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,488
ได้ให้อนุโมทนา: 151,147
ได้รับอนุโมทนา 4,405,364 ครั้ง ใน 34,077 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันเสาร์ที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๖๒

ขอให้ญาติโยมทุกคนตั้งกายให้ตรง กำหนดสติคือความรู้สึกของเราเอาไว้เฉพาะหน้า คืออยู่ที่ลมหายใจเข้าออก หายใจเข้า...ให้ลมหายใจพร้อมกับคำภาวนาของเรา ไหลเข้าไปจนสุด หายใจออก...ให้ความรู้สึกพร้อมกับลมหายใจและคำภาวนาของเรา ไหลออกมาจนสุด คำภาวนานั้นเราจะใช้อะไรก็ได้ ที่มีความถนัด มีความชำนาญมาแต่เดิม

วันนี้เป็นวันเสาร์ที่ ๑ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๒ ที่จะกล่าวถึงในวันนี้ก็คือว่า ในการปฏิบัติธรรมของพวกเรา ส่วนใหญ่แล้วเราทำเพราะอยาก คืออยากได้ใคร่ดี อยากมีอยากเป็น อยากเก่งกล้าสามารถเหมือนครูบาอาจารย์ท่านนั้นท่านนี้

ความจริงตัวอยาก ถ้าเราควบคุมอยู่ในกรอบได้ จะเป็นเครื่องผลักดันที่ดีมาก แต่ว่าส่วนใหญ่แล้วตัวอยากมักจะนำหน้า ไม่ได้อยู่ในกรอบ สภาพจิตของเราจึงกลายเป็นฟุ้งซ่าน ถ้าหากว่าสภาพจิตฟุ้งซ่าน ใจย่อมห่างจากสมาธิเป็นธรรมดา และบางท่านเคยฝึกปฏิบัติในสายอื่น ๆ มาก่อน แต่ไม่ประสบความสำเร็จ ก็บากหน้ามาเสี่ยงโชค ลองดูทางสายนี้บ้าง

อาตมาอยากจะปรับความเข้าใจกับทุกท่านเสียใหม่ว่า จริง ๆ แล้วธรรมะไม่มีสาย พระพุทธเจ้าไม่ได้กำหนดว่านี่เป็นสายพุทโธ นี่เป็นสาย สัมมา อะระหัง นี่เป็นสายนามรูป นี่เป็นสายพองยุบ นี่เป็นสายเคลื่อนไหว นี่เป็นสายมโนมยิทธิ แต่ที่เกิดเป็นสายกันขึ้นมานั้น ก็เพราะว่าครูบาอาจารย์ต้นสายท่านมีความถนัด มีความชำนาญอย่างไร ท่านก็สอนแบบนั้น เมื่อมีลูกศิษย์ลูกหาเลื่อมใสและปฏิบัติตามจนเกิดผลขึ้นมา ก็มีการยกย่องเชิดชูและปฏิบัติตามมากขึ้น ๆ จนกลายเป็นสายธรรมนั้น ๆ แต่จะว่าไปแล้วทั้งหมดก็คือสายของพระพุทธเจ้า
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-06-2019 เมื่อ 21:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 28 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา