ชื่อกระทู้: ลีลาของมาร
ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 20-01-2010, 08:54
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,458
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อยากดีเกินไปก็ฟุ้งซ่านได้ง่าย แล้วพาให้หลงทางได้ง่ายด้วย เพราะว่าส่วนใหญ่แล้ว พวกเราชอบทางลัด ขาดความอดทน ขาดความพากเพียร ถ้ามีข่าวว่าที่ไหนทำให้เราบรรลุได้ง่าย แหม...ตะเกียกตะกายไปทันที ในเมื่อเราขาดความอดทน ขาดความพากเพียร ชอบทางลัด ชอบในสิ่งที่ง่าย ก็โดนหลอกได้ง่ายด้วย เขารู้จุดอ่อน เขาจะใช้ตรงนี้มาหลอกเรา

มีโยมบางคน ไปบางสำนักที่เขารู้ ๆ อยู่ว่า การปฏิบัติไม่ถูกต้องตามแนวทาง แต่ว่าอาจจะเป็นวาระกรรมของเขาด้วย แล้วไปหลงหัวปักหัวปำอยู่ตรงนั้น เขาให้คำชมเชย ให้คำเยินยอหน่อย ก็ไปหลงยึดติดอยู่ตรงนั้น ทำให้เกิดโทษใหญ่ก็คือ เหมือนกับไปเป็นมือเป็นเท้า ช่วยให้เขาเผยแผ่ในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง

ปัจจุบันนักปฏิบัติที่มาสายพระโพธิสัตว์ มีมากต่อมากด้วยกัน อย่างพระที่นิมนต์มางานวันแม่ นั่นก็พระโพธิสัตว์เกินครึ่ง เราจะเห็นว่าบางท่านเนี้ยบเลย แต่จริง ๆ แล้วมาสายพระโพธิสัตว์ ต้องการจะเกิดเป็นพระพุทธเจ้าข้างหน้าอีกไกล ในเมื่อเป็นดังนั้น..โอกาสที่ท่านจะสอนเพื่อมรรคเพื่อผลก็ไม่มี แล้วท่านก็อาจจะพาเราไปทำงาน ในลักษณะที่สร้างบารมีของท่าน กลายเป็นเราเสียเวลาล่าช้าไปอีก

ฉะนั้น..พิจารณาให้ดี ๆ ไม่ว่าครูบาอาจารย์ที่ไหนก็ตาม ท่านก็เป็นได้แต่เพียงผู้บอก จะได้ดีหรือไม่ได้ดีอยู่ที่เราทำกันเอง การทำด้วยตัวเองก็ต้องมีความพากเพียร ความอดทน ค่อย ๆ สั่งสมไปทีละเล็กทีละน้อย ผิดพลาดไม่ต้องไปเสียใจ ไม่ต้องไปเสียดาย ให้เริ่มต้นทำในสิ่งที่ถูกต้องเสียใหม่ในทันที พอทำอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ แล้วจะมีความคล่องตัว รู้เท่าทันกิเลสได้มากขึ้น เอาชนะเขาได้บ่อยครั้งขึ้น ก็จะสั่งสมให้เกิดความมั่นใจขึ้นมา

แต่ว่าบางทีก็มั่นใจจนเกินเหตุ จึงโดนเขาหลอกจนหลงทาง การปฏิบัติทุกระดับชั้น ต้องมีการประเมินตัวเองอยู่ตลอดเวลา ที่พระพุทธเจ้าท่านเรียกว่า วิมังสา ไตร่ตรองทบทวนด้วยตนเอง อย่างเมื่อคืนให้ประเมินผลงานในรอบ ๑ ปี (ช่วงทำกรรมฐาน) ให้ตรวจตัวเองแบบยุติธรรม ไม่ใช่ตรวจการบ้านเองโดยให้คะแนนเยอะ ๆ เกรดเอยังไม่พอ...ให้เอบวกไปเลย เกรดเอบวกนี่ไม่รู้จะให้ที่ไหน เพราะเกินตำรา..

จริง ๆ แล้วไม่มีหน้าที่อะไรสำคัญกว่าการดูใจตัวเอง แก้ที่ใจตัวเอง ถ้าเราดูกำลังใจตัวเอง เห็นมีสิ่งไม่ดีอยู่ก็ขับไล่ออกไป แล้วก็คอยระมัดระวัง อย่าให้กลับเข้ามาใหม่ ถ้าไม่มีความดี ก็สร้างความดีขึ้นมา ถ้ามีอยู่แล้วก็ทำให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป ถ้าทำแค่นี้งานจะเหลือน้อย ไม่เหนื่อยมากด้วย แต่ว่าถ้าเผลอเมื่อไรก็โดนหลอกให้ไปไกลอยู่เรื่อย

ถาม : เป็นเพราะประมาท ?
ตอบ : เราไม่ได้ประมาทอย่างเดียว เราขาดปัญญาด้วย คนประมาทบางทียังรู้ทัน แต่นี่ถูกพาไปไกลลิบโลกเลยยังไม่รู้ตัว เคยมีภาษิตจีนเขาบอกว่า โดนเขาขายแล้วยังไม่รู้ตัว ยังไปช่วยเขานับเงินอีก เวลามารเขาหลอก...เขาไม่ปรานีเราหรอก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-02-2015 เมื่อ 10:02
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 109 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา