ครูบาอาจารย์ท่านอธิบายว่า ยันต์เกราะเพชรเป็นบารมีพระพุทธเจ้า ในเมื่อเป็นบารมีพระพุทธเจ้าก็คือมาจากพุทธศาสตร์ ความรู้ของผู้ตื่น ก็คือตื่นจากกิเลสแล้ว ส่วนไสยศาสตร์เป็นความรู้ของผู้หลับ ผู้ถูกถ่วงหนักด้วยอวิชชา หลงงมงายเหมือนคนที่อยู่ในความหลับ ในเมื่อความตื่นกับความหลับ ความสว่างกับความมืด ก็เลยอยู่ด้วยกันไม่ได้โดยธรรมชาติ
เมื่อถึงเวลาผู้ที่รับยันต์เกราะเพชรไป ถ้ามีการภาวนาเป็นปกติ จากประสบการณ์ของอาตมาที่ลงปักษ์ใต้ไปครั้งแรกเมื่อเกือบ ๓๐ ปีที่แล้ว ไปอยู่ในดงไสยศาสตร์พอดี ก็สงสัยว่าสัมผัสปุ๊บก็หาย สัมผัสปุ๊บก็หาย ก็เลยตั้งใจพิจารณาดูก็รู้ว่า ด้วยความที่เรามียันต์เกราะเพชรอยู่ เมื่อผ่านไปก็เลยทำลายไสยศาสตร์เขาไปด้วย
ทันทีที่รู้สึกว่าเป็นไสยศาสตร์ ยันต์เกราะเพชรก็แสดงอานุภาพด้วยตัวเอง ก็เลยทำให้มั่นใจว่าไสยศาสตร์นั้นไม่สามารถที่จะสู้กับอำนาจของยันต์เกราะเพชรได้ แต่ก็มีบุคคลที่เคยรับยันต์เกราะเพชรไปแล้ว กินไม่ได้ นอนไม่หลับหลายวัน จะตายเอา ไปหาครูบาอาจารย์ของตน เขาก็บอกว่าแกครอบครูโนราห์ แล้วดันไปรับยันต์เกราะเพชร ครูโนราห์มาทางสายไสยศาสตร์ ก็เลยทำให้เดือดร้อน
อาตมาก็แนะนำว่าให้อธิษฐานขอบารมีพระว่า ให้ครูโนราห์สามารถเข้าออก ทำหน้าที่ของตัวเองได้ ผู้ที่รับไปก็บอกว่าทำไม่เป็น ท้ายสุดอาตมาก็เลยต้องอธิษฐานแทน ไม่อย่างนั้นแล้วครูโนราห์โดนกดอยู่ข้างใน ออกไม่ได้ ไม่รู้จะทำอย่างไร ก็เตือนผ่านลูกผ่านหลาน เจ็บไข้ได้ป่วย หัวไม่วาง หางไม่เว้น
เพราะฉะนั้น..ถ้าหากว่าใครครอบครูสายโนราห์ทางปักษ์ใต้มา ก็ขอให้รู้ว่าถ้ามารับยันต์เกราะเพชรไป อาจจะมีปัญหานี้ ถ้ามีปัญหานี้ วิธีแก้ก็คือจุดธูปบอกพระพุทธเจ้าว่าขอให้ครูโนราห์ ซึ่งเป็นครูตามสายวิชาของครอบครัวของตน หรือว่าสายวิชาตามสายครูบาอาจารย์ของตนสามารถเข้าออกได้ ไม่อย่างนั้นโดนกดอยู่ข้างใน เดี๋ยวอาละวาดอีก
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-07-2019 เมื่อ 10:52
|