(ไม่ชัด)..อย่างที่อาตมาเป็นอยู่นี่แหละ ประเภทมรดกอะไรก็ไม่ให้ แต่ให้มาลาเรียมา หลวงพ่อบอกว่าท่านไม่คิดว่าเลิกธุดงค์มาตั้งสามสี่สิบปีแล้วจะเป็น พอ ๔ โมงเย็นท่านจะอาเจียนเป็นกระโถน ๆ ทุกวัน ท่านคิดว่า ท่านต้องรับสังฆทานญาติโยมตั้งแต่บ่ายโมงถึง ๔ โมงเย็นทุกวัน ก็คิดว่าพระช่วยให้มีกำลังในจุดนั้น แล้วไปอาเจียนหลังจากที่รับสังฆทานเสร็จแล้ว ท่านลืมไปว่ามาลาเรียมาตรงเวลาทุกวัน
พอวาระใกล้ ๆ จะสิ้น กรรมท่านเริ่มเบาลง หลังจากที่เป็นมาจนงอมพระราม ถ้าเป็นพวกเราก็ตายไปหลายรอบแล้ว กรรมท่านเริ่มเบาลง พระท่านก็ทำภาพให้ดูว่า ต้องใช้ยาอย่างนี้ ๆ ปรากฏว่าเป็นยาควินินน้ำแบบเข้มข้น ท่านถึงได้รู้ว่าท่านเป็นมาลาเรีย ก่อนหน้านั้นพระท่านบอกไม่ได้ เพราะวาระกรรมยังไม่เบาลง บอกไปก็เป็นการฝืนกฎของกรรม พอฉีดเข้าไป หลวงพ่อท่านหายจากมาลาเรียได้ไม่กี่วันก็เริ่มตัวบวม
ถ้าใครเห็นรูปที่ท่านนั่งโซฟาแล้วเต็มโซฟาเลย อาตมาขอยืนยันว่าท่านบวมนะ แล้วทุกคนชื่นชมเหลือเกินว่าภาพนี้เป็นภาพสุดท้ายของหลวงพ่อ ไม่รู้ว่าท่านกำลังบวม ทรมานขนาดไหน ต้องฉันยาขับน้ำอยู่ทุกวัน ก็จะบวม ๆ ยุบ ๆ อยู่ ๗ - ๘ ครั้ง แล้วก็มรณภาพ เพราะร่างกายไม่ไหว ทั้ง ๆ ที่อายุจริง ๆ ของหลวงพ่อไม่ใช่แค่นั้น อายุท่านยังเหลืออีกมากเลย ยังเหลืออีก ๓๐ ปีได้ จากตอนนี้นะ แต่มรณภาพก่อนเพราะเข็นร่างกายไม่ไหว เนื่องจากทำกรรมไว้เยอะ
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-10-2013 เมื่อ 02:32
|