ต้องบอกว่าในเรื่องของการเจ็บไข้ได้ป่วย ถ้าเรารู้จักพิจารณา จะได้อะไรดี ๆ เยอะมากเลย เพราะจะเห็นความไม่ดีของร่างกายนี้จริง ๆ ถ้าใครที่เจ็บป่วย ขอให้รู้ว่าเป็นลาภอันประเสริฐอย่างยิ่งแล้ว โอกาสแบบนี้หาซื้อไม่ได้ จ่ายแพงเท่าไรเขาก็ไม่ขายให้
เราลองนึกดูว่า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ๑ พระองค์ กว่าจะตรัสรู้ เอาแค่ระดับที่เรียนเก่งที่สุด จบสั้นที่สุด ก็คือพระพุทธเจ้าแบบปัญญาธิกะ บาลีท่านบอกว่า จิตติตัง สัตตะสังเขยยัง แต่คิดในใจใช้เวลา ๗ อสงไขย นวสังเขยยะ วาจะกัง พูดว่าเราจะเป็นพระพุทธเจ้าอีก ๙ อสงไขย ไป ๑๖ อสงไขยแล้ว หลังจากนั้นก็เป็นการปฏิบัติเพื่อให้เป็นพระพุทธเจ้าอีก ๔ อสงไขยกับแสนมหากัป ระยะเวลาเนิ่นนานขนาดนั้น คิดเป็นทรัพยากรที่ใช้สิ้นเปลืองไปแต่ละชาติเท่าไร ประมาณเป็นตัวเลขได้ไหม ? จะเป็นตัวเลขมหึมาชนิดที่สามารถซื้อจักรวาลได้เลย
ท่านใช้ทรัพยากรไปสิ้นเปลืองขนาดนั้นเพื่อศึกษาให้เห็นทุกข์ แล้วตอนนี้ถ้าเราเจ็บไข้ได้ป่วยอยู่ ความทุกข์มาอยู่ตรงหน้า เปรียบราคาขนาดนั้นแล้ว ทุกข์จึงมีคุณค่ามหาศาล ถึงได้บอกว่า ต้องใช้ทรัพยากรขนาดไหนก็ซื้อทุกข์แบบนั้นให้เราเห็นชัด ๆ ไม่ได้ แต่ตอนนี้ไม่ต้องซื้อ มาอยู่ตรงหน้าของเราเลย
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-10-2013 เมื่อ 20:37
|