ปรากฏว่าปัญจวัคคีย์ไม่ต้อนรับอีกต่างหาก เห็นพระองค์ท่านเดินมาแต่ไกลก็กล่าวว่า นั่นสิทธัตถราชกุมารเดินทางมาหาเราแล้ว คงจะทนความลำบากไม่ได้ ต้องการให้เราอุปัฏฐากรับใช้ ขอเราทั้งหลายอย่าได้จงอย่าได้ลุกรับ อย่าได้ปูอาสนะ อย่าได้ถวายน้ำใช้น้ำฉัน
เนื่องเพราะว่าสมัยนั้นเชื่อว่า การจะบรรลุมรรคบรรลุผลได้มีวิธีเดียว ก็คือต้องทรมานตัวเอง แต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าค้นพบทางสายกลาง ไม่ย่อหย่อนเกินไปและไม่ตึงเกินไปจนบรรลุมรรคผลได้ แต่ยังไม่มีใครเชื่อเพราะไม่มีพยานหลักฐาน
แต่เมื่อองค์สมเด็จพระภควันต์เสด็จเข้าไปใกล้ ด้วยความเคยชินและพุทธบารมี ทำให้ปัญจวัคคีย์ลืมข้อสัญญาที่ตกลงกันไว้ คนที่เคยลุกรับก็ลุกรับ คนที่เคยปูอาสนะก็ปูอาสนะ คนที่เคยถวายน้ำใช้น้ำฉันก็ถวาย
แต่ก็ยังประกอบไปด้วยทิฐิมานะ โดยเรียกพระองค์ท่านว่า อาวุโส แปลว่า ผู้มีอายุ ซึ่งเป็นคำเรียกของคนแก่ที่เรียกเด็ก เหมือนอย่างกับสมัยนี้ที่เราอาจจะเรียกเด็ก ๆ ว่า ไอ้หนุ่ม เป็นต้น แต่ถ้าเรียกว่า ภันเต แปลว่า "ผู้เจริญ" นี่ใช้เรียกว่าผู้ที่มีความเหนือกว่าด้วยวัยวุฒิและคุณวุฒิ ก็คืออายุมากกว่า ความรู้มากกว่า
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-07-2019 เมื่อ 10:47
|