ดูแบบคำตอบเดียว
  #5  
เก่า 11-06-2023, 14:03
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,596
ได้ให้อนุโมทนา: 151,775
ได้รับอนุโมทนา 4,412,096 ครั้ง ใน 34,186 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อาตมาก็เหมือนกัน ได้ผลแล้วก็เปลี่ยน ไปถึงแทบจะโดนหลวงพ่อฟาดกบาลแยก "ใครใช้ให้มึงทิ้งของเก่าวะ..?!"
อาตมาก็ "อ้าว..แล้วของเก่าต้องเก็บไว้ด้วยหรือครับหลวงพ่อ ? ก็เราทำได้แล้ว"
หลวงพ่อบอกว่า "ทำได้แล้วก็ต้องทวนเอาไว้ทุกวัน ก่อนจะขึ้นกองใหม่ต้องทวนของเก่าให้เต็มที่ก่อน"

อาตมาก็ไม่รู้ นึกว่าจบแล้วก็ไม่ต้องไปยุ่งกับกองนั้นอีก เพราะว่าถ้าเราทิ้งก็จะเกิดอาการที่บอกว่า
เจ็ดวันเว้นดีดซ้อม.............ดนตรี
ห้าวันอักขระหนี................เนิ่นช้า

สนิมกิน..ก็เลยต้องทวนของเก่าเต็มที่ก่อน แล้วค่อยเปลี่ยนไปขึ้นกองใหม่ กองใหม่ได้แล้วคราวนี้ก็ทวน ๒ กอง แล้วไปขึ้นกองที่ ๓ ไล่ไปเรื่อย

มีกรรมฐานอยู่สองอย่างเท่านั้นในชีวิตที่อาตมภาพว่ายากมาก แต่สอนพวกเราอยู่ทุกวัน ก็คือ พรหมวิหาร ๔ กับ อรูปฌาน ๔

ถามว่า "สอนอยู่ทุกวัน..สอนตรงไหน ?" ก็แผ่เมตตานั่นแหละ กำหนดภาพพระในอก ในท้อง กำหนดอยู่ข้างนอกเป็นรูปฌาน กำหนดอยู่ข้างในเป็นอรูปฌาน ฟังดูแล้วบ้าไปเลยนะ..บ้าไปก่อนแล้วกัน เดี๋ยวทำได้ก็จะรู้เอง

เป็นกรรมฐานแปดกอง สองหมวด ที่ยากมาก เพราะว่าใหม่ ๆ ไม่มีความเข้าใจ เมื่อคล่องตัวขึ้นมาสามารถแยกแยะได้แล้ว คนเขาถามว่า "อากาสกสิณหรือว่ากสิณอากาศ กับอากาสานัญจายตนฌาน ต่างกันตรงไหน ?" ใครตอบได้บ้าง ?

อากาศกสิณเราจับเฉพาะช่องว่างส่วนใดส่วนหนึ่งเท่านั้น
แต่อากาสานัญจายตนฌานจับความกว้างไร้ขอบเขตของอากาศ จะเรียกว่าอวกาศก็ได้

ต่างกันแค่นี้เอง กำลังคือฌาน ๔ เท่ากัน แต่วิธีการปฏิบัติต่างกัน กองหนึ่งเลยเป็นรูปฌาน อีกกองหนึ่งเป็นอรูปฌาน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-06-2023 เมื่อ 16:02
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 20 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา