ดูแบบคำตอบเดียว
  #9  
เก่า 25-02-2009, 19:51
ชินเชาวน์'s Avatar
ชินเชาวน์ ชินเชาวน์ is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Oct 2008
ข้อความ: 259
ได้ให้อนุโมทนา: 13,956
ได้รับอนุโมทนา 50,289 ครั้ง ใน 1,280 โพสต์
ชินเชาวน์ is on a distinguished road
Default

“ ดี”ก็รู้ “ไม่ดี”ก็รู้

นอกจากเรื่องที่เป็น”ธรรม”ที่ท่านเจ้า คุณนรรัตน์ฯใส่ใจมาตลอดชีวิตแล้ว แม้เรื่องของ”อธรรม” ของบุคคลผู้อื่นท่านเจ้าคุณนรรัตน์ฯท่านก็สามารถหยั่งรู้ได้อย่างไม่มีใด ปิดกั้น และไม่รีรอที่จะตักเตือนสั่งสอนให้ผู้ประพฤติผิด คิดมิชอบเหล่านั้นได้เร่งแก้ไข หรือปรับปรุงตัวให้ดีขึ้นอย่าง”ตรงไปตรงมา” ไม่มีการอ้อมค้อมวกวนให้เสียเวลาในทันที ตามนิสสัยแห่งความเป็น”คนตรง”ของท่านได้ อย่างที่ท่านเองก็เคยกล่าวอยู่เสมอๆว่า “อาตมาคนวันเสาร์ พูดอะไรพูดตรงๆ เป็นคนขวานผ่าซาก ขี้ก็บอกว่าขี้ พูดอย่างอื่นไปเป็น...” ด้วยเหตุนี้ จึงมีทั้งพระและโยมที่มีพฤติการณ์ทางกายกรรม วจีกรรม และมโนกรรมที่ไม่ค่อยจะแลดูโสภาเท่าไร โดนท่านธมฺมวิตกฺโก “เคาะ”ให้ จน”สนิม”ร่วงกราวไปตามๆกัน....

ครั้งหนึ่ง มีพระภิกษุในวัดเทพศิรินทราวาสรูปหนึ่ง(ขอสงวนนามเด็ดขาด) บังเอิญได้คุยกับผู้คุ้นเคยคนหนึ่ง อย่างเป็นกันเอง พอไปๆมาๆ ก็วกเข้ามาถึงเรื่องของพระเครื่อง พระรูปนั้นก็พูดทีเล่นเชิงตลกว่า
“เอ๊ะ เราไปตั้งร้านพุทธพาณิชย์ คงจะร่ำรวยกันเป็นแน่ เพราะคนในสมัยนี้นิยมเช่าพระกันมากเหลือเกิน..” แล้วก็หัวเราะกันอย่างสบายใจ และไม่ได้คิดอะไรมาก โดยไม่ได้รู้อิโหน่อิเหน่เลยสักนิดว่า “ฟ้า”กำลังใกล้จะ”ผ่า”ลงกลางกระหม่อมอยู่อีกไม่กี่อึดใจข้างหน้านี้ แล้ว.....
ครั้นวันรุ่ง พระรูปที่พูดเล่นเรื่อง”พุทธพาณิชย์”นั้นก็ไปลงโบสถ์ทำวัตรเช้า เมื่อประจันหน้ากับท่านเจ้าคุณนรรัตน์ฯที่มาทำวัตรเช้าเช่นกันเข้า ก็โดนท่านเจ้าคุณธมฺมวิตกฺโกชี้หน้าต่อว่าเลยทีเดียวว่า
“คุณน่ะ ปากร้าย... ควรที่จะหัดสังวรระวังปากของคุณเสียบ้างนะ ที่พูดถึงเรื่องพุทธพาณิชย์ขึ้นมาเมื่อวันก่อนนั้น ไม่ดีเลย...”

และเมื่อต่อว่าจบลง ท่านธมฺมวิตกฺโกก็เดินจากไปอย่างไม่ไยดีแม้แต่นิดเดียว สร้างความตื่นตะลึงพรึงเพริดราวกับไก่ตาแตกให้บังเกิดแก่ภิกษุปากร้ายรูปนั้นอย่างเหลือที่จะกล่าวได้ เรื่องของเรื่อง ก็เป็นที่สงสัยกันไม่เลิกว่า ท่านธมฺมวิตกฺโกรู้เรื่องของที่ทั้งสองคนได้พูดกันได้อย่างไร ทั้งๆ ที่กุฏิก็อยู่ไกลกันมาก และท่านธมฺมวิตกฺโกก็ไม่เคยไปยังกุฏิพระรูปที่ว่านี้เลย ตลอดแม้คนที่คุยกับพระรูปดังกล่าว ก็ยังไม่ได้ไปพูดกับใครคนไหน เรื่องพุทธพาณิชย์เลยแม้แต่เพียงคำเดียว??? คงต้องยกให้เป็นเรื่องของ”ญาณหยั่งรู้” อันไร้ขอบเขตที่จำกัดของท่านเจ้าคุณนรรัตน์ฯ แต่เพียงสถานเดียวเท่านั้นแน่นอนแล้ว

“ญาณรู้” ต่างภพชาติ


ไม่เพียงแต่ท่านเจ้าคุณนรรัตน์ฯจะมี ญาณหยั่งรู้เหตุการณ์ทั้งภายในและภายนอกอย่างดียิ่งตามธรรมดาเท่านั้น แม้แต่เรื่องราวต่างภพต่างมิติ ท่านก็ตามไปรู้ไปเห็นอย่างไม่มีใดกั้น อย่างทะลุปรุโปร่งอีกต่างหากด้วย

คราวหนึ่ง ในขณะที่มีการประกวดนางงามในงานวชิราวุธานุสรณ์ และนางงามผู้ชนะเลิศการประกวดเรียกกันว่า “นางงามวชิราวุธ” ซึ่งต่อไปได้เปลี่ยนเป็น”นางสาวไทย” นั้น ได้มีญาติโยมบางท่านเอาเรื่องนี้มาพูดคุยวิพากษ์วิจารณ์กันภายในพระอุโบสถ วัดเทพศิรินทร์ ต่อหน้าท่านเจ้าคุณนรรัตน์เสียอีกต่างหากด้วย
ทันใดนั้นเอง ท่านธมฺมวิตกฺโก ก็กล่าวขึ้นในบัดเดี๋ยวนั้นนั่นเองว่า
“พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ไม่ทรงพอพระราชหฤทัยที่เอาพระปรมาภิไธยของพระองค์ไปใช้เรียกชื่อนางงาม ที่นุ่งน้อยห่มน้อย เป็นเชิงประกวดขาอ่อนกันเช่นนั้น..!!!!”
ทุกคนที่ได้ฟัง ต่างพากันตกตะลึงและงงงันเป็นที่สุด หนึ่งในจำนวนนั้นถึงกับโพล่งขึ้นมาเลยทีเดียวว่า
“พระเดชพระคุณได้ติดต่อกับพระองค์อยู่เสมอหรืออย่างไร จึงทราบว่า การดังนี้ไม่เป็นที่ทรงพอพระราชหฤทัย..???”
“โธ่” ท่านธมฺมวิตกฺโกพยักหน้าตอบ
คำตอบของท่านเจ้าคุณนรรัตน์ฯนี้ เป็นคำตอบอย่างจนมุม สุดที่จะหลีกเลี่ยงตอบให้เป็นอื่นไปได้ เพราะตามปกติแล้ว ท่านธมฺมวิตกฺโกมักจะหลีกเลี่ยงในอันที่จะไม่แสดงญาณหยั่งรู้และคุณวิเศษอันใดให้เป็นที่ปรากฏทั้งสิ้น นอกจากจะเป็นการบังเอิญ ดังเช่นกรณีนี้เท่านั้น

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ชินเชาวน์ : 26-02-2009 เมื่อ 14:21
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 19 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ชินเชาวน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา