ดูแบบคำตอบเดียว
  #1  
เก่า 21-07-2016, 19:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,915 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันเสาร์ที่ ๒ กรกฎาคม ๒๕๕๙

ให้ทุกคนตั้งกายให้ตรง กำหนดสติไว้ที่ลมหายใจเข้าออก หายใจเข้า...ให้ความรู้สึกของเราไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก...ให้ความรู้สึกของเราไหลตามลมหายใจออกมา จะใช้คำภาวนาอะไรก็ได้ที่เรามีความถนัดมาแต่เดิม

วันนี้เป็นวันเสาร์ที่ ๒ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๕๙ เรื่องที่อยากจะบอกกล่าวกับพวกเราในวันนี้ก็คือ การปฏิบัติธรรมนั้นเป็นเรื่องของบุคคลที่ทรงปรมัตถบารมี ก็คือกำลังใจที่เข้มข้นสูงสุด

ถ้าหากว่าเป็นสามัญบารมีหรือบารมีต้น เราให้ทานได้ แต่รักษาศีลหรือเจริญภาวนาไม่ได้ ถ้าเป็นอุปบารมีหรือบารมีขั้นกลาง เราให้ทานได้ รักษาศีลได้ แต่เจริญภาวนาไม่ได้ ต้องเป็นปรมัตถบารมี คือ กำลังใจระดับสูงสุดเท่านั้น ถึงจะให้ทาน รักษาศีล และเจริญภาวนาได้

บุคคลที่เจริญภาวนานั้น ก็ใช่ว่าจะสามารถเข้าถึงมรรคถึงผลกันได้ทุกคน เพราะว่าการจะเข้าถึงมรรคผลนั้น เราต้องรู้กฎเกณฑ์กติกาว่า จะปฏิบัติอย่างไรให้เข้าถึงมรรคผล และในขณะเดียวกัน ก็ต้องมีใจรักในพระนิพพานเป็นปกติ

ดังนั้น...ท่านทั้งหลายที่ปฏิบัติเพื่อพระนิพพานเป็นปกติ นอกจากกำลังใจท่านจะอยู่ในระดับปรมัตถบารมีแล้ว ยังเป็นกำลังใจที่เข้าถึงมรรคผลได้ทุกคน เพียงแต่ว่าท่านทั้งหลายได้ละทิ้งโอกาสนั้นไปหรือเปล่า ? เพราะว่าการปฏิบัติเท่าที่เห็นอยู่ในปัจจุบันนั้น เรายังไม่ได้ทำกันอย่างจริงจังเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-07-2016 เมื่อ 20:20
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 45 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา