ดูแบบคำตอบเดียว
  #8  
เก่า 07-10-2017, 21:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,369
ได้ให้อนุโมทนา: 150,683
ได้รับอนุโมทนา 4,397,016 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"๓. ด้านการเผยแผ่ ก็คือเรื่องของการสั่งสอนญาติโยม ไม่ว่าจะอยู่กับวัดก็ดี หรืออย่างที่อาตมาเดินทางไปเพื่อสอนกรรมฐานที่บ้านเติมบุญก็ตาม ล้วนแล้วแต่ต้องมีค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น โดยเฉพาะการสอนที่บ้านเติมบุญ มีการถ่ายทอดสด การสอนกรรมฐานที่วัดท่าขนุนในช่วงวันสำคัญในพระพุทธศาสนา มีการถ่ายทอดสด ทุกอย่างล้วนแต่ต้องใช้เงิน

๔. ด้านการสาธารณูปการ
คือการบูรณปฏิสังขรณ์ภายในของแต่ละวัด แค่ปีที่แล้วปีเดียว อาตมาใช้เงินไปเกือบหนึ่งร้อยล้านบาท

๕. การสาธารณสงเคราะห์ ทางคณะสงฆ์บังคับว่าต้องทำสิ่งที่เป็นสาธารณประโยชน์ อย่างเช่น ขุดบ่อน้ำ ทำเหมืองฝาย สร้างประปา สร้างสาธารณสุข สร้างพระพุทธรูปประจำโรงเรียน หรือสร้างห้องสมุดอย่างของอาตมา เป็นต้น

๖. การศึกษาสงเคราะห์ ก็คือการให้ทุนการศึกษานักเรียน ปีที่แล้วอาตมาให้ทุนไป ๑๒ โรงเรียน เฉพาะทุนระดับประถม มัธยม เป็นเงิน ๖๐๐,๐๐๐ กว่าบาท ให้ทุนระดับปริญญาตรีอีก ๙ ทุน ทุนละ ๓๐,๐๐๐ บาท ๒๗๐,๐๐๐ บาท รวมทุนการศึกษาของพระเณรด้วย ปีหนึ่งก็ให้ทุนการศึกษาหลายล้านบาท

ก็แปลว่าในงานคณะสงฆ์ทั้ง ๖ ด้านนั้น เป็นงานที่ต้องใช้เงินทั้งสิ้น แต่ว่าบรรดาคณะกรรมการปฏิรูปพุทธศาสนา ที่อาตมาบอกว่ามีหัวไว้คั่นใบหูเท่านั้นไม่ได้มองตรงนี้ บอกอยู่อย่างเดียวว่า การรับเงินนั้นผิดพระธรรมวินัย พวกนี้สมควรที่จะสูญพันธุ์ เพราะว่าเป็นไดโนเสาร์ที่ปรับตัวไม่เป็น...!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-10-2017 เมื่อ 03:32
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 109 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา